Embracer Group ขาดทุน 431 ล้านเหรียญในปีที่ผ่านมาและอาจไม่ซื้อกิจการเพิ่มแล้ว

Embracer Group แถลงผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 และประจำปีออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยในไตรมาสที่ผ่านมาพวกเขาทำรายได้ไปทั้งหมด 5.23 พันล้านโครนาสวีเดน (525 ล้านเหรียญ) เพิ่มขึ้น 117% แต่กลับขาดทุน 1.67 พันล้านโครนาสวีเดน (168 ล้านเหรียญ) เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมาที่ทำกำไรไปได้ 159 ล้านโครนาสวีเดน (16 ล้านเหรียญ)

ทาง Embracer Group ได้แถลงว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากกิจการต่างๆ ที่เพิ่งจะเข้าซื้อมาไม่ว่าจะเป็นทาง Gearbox, Easybrain และ Asmodee จึงทำให้ในไตรมาสที่ผ่านมาพวกเขามีกำไรติดลบ 34% และนอกจากนี้ยังเป็นผลมาจากความสำเร็จของเกมอย่าง Valheim ของทาง Coffee Stain ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อปีที่ผ่านมาอีกด้วยที่ทำให้ตัวเลขในปีนี้ลดลงกว่าเดิมเป็นอย่างมาก

โดยในส่วนของทาง Coffee Stain นั้นมีรายได้ที่ลดลงถึง 78% เมื่อเทียบกับปีก่อนโดยมีรายได้ที่ลดจาก 781 ล้านโครนาสวีเดน (78.5 ล้านเหรียญ) มาอยู่ที่ 171 ล้านโครนาสวีเดน (17.2 ล้านเหรียญ) ซึ่งทาง ลารส์ วิงก์ฟอร์ส (Lars Wingefors) ประธานของ Embracer Group ได้ให้การว่า Valheim ประสบความสำเร็จเกินกว่าที่คาดการณ์เอาไว้มาก แต่อย่างไรก็ดีเขาก็ยังเชื่อว่าทางบริษัทจะยังสามารถสร้างปรากฏการณ์ที่ส่งผลไปถึงความสำเร็จแบบนี้ได้อีกจากเกมที่จะออกภายในปีนี้

นอกจากรายได้ของ Coffee Stain ที่ลดลงแล้วอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลอย่างมากก็คือการวางจำหน่ายเกม Elex 2 ของทาง THQ Nordic ที่ไม่เป็นไปตามเป้าแต่ทางค่ายก็ยังคงเชื่อมั่นว่าตัวเกมจะสามารถทำรายได้ไปจนถึงจุดคุ้มทุนได้

สำหรับในปีที่ผ่านมาทั้งปีทาง Embracer Group ทำรายได้เพิ่มขึ้น 89% มาอยู่ที่ 17 พันล้านโครนาสวีเดน (1.71 พันล้านเหรียญ) โดยขาดทุนทั้งหมด 4.29 พันล้านโครนาสวีเดน (429 ล้านเหรียญ) เทียบกับปีก่อนที่ทำกำไรได้ 287 ล้านโครนาสวีเดน (28.9 ล้านเหรียญ)

โดยมี Gearbox Entertainment ที่ทำรายได้ไป 1.93 พันล้านโครนาสวีเดน (193 ล้านเหรียญ) Koch Media ที่ทำรายได้ไป 2.49 โครนาสวีเดน (249 ล้านเหรียญ) เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน Saber Interactive ที่ทำรายได้ไป 1.69 พันล้านโครนาสวีเดน (169 ล้านเหรียญ) เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน Easybrain ที่ทำรายได้ไป 3.19 พันล้านโครนาสวีเดน (319 ล้านเหรียญ)

โดยทางลาร์ส วิงก์ฟอร์ส ยืนยันว่ากลยุทธ์การเติบโตของ Embracer Group จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าในปีที่ผ่านมารายได้หลักจะมาจากกิจการต่างๆ ที่เข้าซื้อ และมีการเติบโตแบบออร์แกนิคที่ลดลงอยู่ 7% โดยเป้าหมายหลักของบริษัทก็คือ “การเติบโตแบบออร์แกนิคจากความสามารถในการทำกำไรได้”

ซึ่งในปี 2021 และ 2022 คือปีแห่งการเปลี่ยนผ่านของบริษัทที่ทางค่ายได้ลงเงินไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายในเครือ โดยในตอนนี้ยังมีเพียงไม่มีเกมเท่านั้นที่ได้ออกวางจำหน่ายและสามารถทำเงินจนคุ้มทุนได้ ซึ่งทาง Embracer Group คาดหวังว่าในปีนี้ทางบริษัทจะมีการเติบโตแบบออร์แกนิคอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการมาของเกม Saints Row เกมในระดับ AAA เกมแรกที่จะออกวางจำหน่ายในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ และเกมจากผู้ผลิตอีก 20 เจ้าที่จะลงให้กับทั้ง PC และคอนโซลเป็นจำนวน 223 เกมที่จะวางจำหน่ายในปีนี้ และยังมีเกมในระดับ AAA อีกกว่า 25 เกมที่จะวางจำหน่ายภายในปีงบประมาณ 25/26 อีกด้วย

นอกจากนี้ทางลาร์ส วิงก์ฟอร์ส ยังได้ยังได้แย้มอีกด้วยว่าทาง Embracer Group อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การเข้าซื้อกิจการในเร็วๆ นี้ ด้วยเหตุผลที่ทางบริษัทไม่ต้องการเติบโตมากไปกว่านี้แล้ว แต่ก็ยังคงไม่ปิดโอกาสในการเข้าซื้อกิจการอื่นๆ ที่มีศักยภาพเข้ามาอยู่ในเครือเพื่อการเติบโตในระยะยาวเหมือนเดิม

Share this article
0
Share
0 Share
0 Tweet
0 Share
0 Share
Shareable URL
0
Share