CD Projekt Red แถลงผลประกอบการประจำปี 2021 ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยพวกเขาสามารถทำรายได้รวมจากการขายไปได้ทั้งสิ้น 207 ล้านเหรียญ โดยเป็นตัวเลขที่ลดลงจากปีที่แล้วถึง 63 เปอร์เซ็นต์ (รายงานผลประกอบการนี้ครอบคลุมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึง 31 ธันวาคม 2021)
โดยในปีงบประมาณที่ผ่านมา ด้วยการวางจำหน่ายของเกม Cyberpunk 2077 ทำให้ทาง CD Projekt Red สามารถทำรายได้ไปได้ถึง 562 ล้านเหรียญ ในขณะที่ปี 2019 เองพวกเขาก็สามารถทำรายได้อยู่ที่ 121.7 ล้านเหรียญ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปีที่ผ่านมาเกม Cyberpunk 2077 ที่เพิ่มเข้ามาในไลน์อัปการวางจำหน่ายเกมของ CD Projekt Red ก็ยังคงสามารถช่วยให้บริษัททำเงินได้เพิ่มมากขึ้น
ซึ่งทาง CD Projekt Red ก็ได้มีการประกาศในรายงานเช่นกันว่าตัวเกม Cyberpunk 2077 ก็ทำยอดขายไปได้กว่า 18 ล้านก๊อบปี้ และในเดือนที่เกมวางจำหน่ายตัวเกมก็สามารถทำยอดขายในรูปแบบดิจิทัลไปได้ถึง 10 ล้านดาวน์โหลด
นอกจากนี้ตัวเกมในซีรีส์ The Witcher เองก็ทำยอดขายไปได้ถึง 65 ล้านก๊อบปี้แล้ว โดยมีเกม The Witcher 3 : Wild Hunt ที่กินส่วนแบ่งยอดขายไปถึง 40 ล้านก๊อบปี้
ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง CD Projekt Red ได้มีการประกาศการพัฒนาเกม The Witcher 3: Wild Hunt สำหรับเครื่องเกมรุ่นใหม่ด้วย ซึ่งจะได้ทาง Saber Interactive มาทำหน้าที่ในการพัฒนา แต่ล่าสุดทาง CD Projekt Red ก็ได้ประกาศเลื่อนการวางจำหน่ายออกไปอย่างไม่มีกำหนดแล้วจากกำหนดการเดิมในช่วงไตรมาสของปี 2022 พร้อมย้ายมาพัฒนาด้วยสตูดิโอภายในของตัวเอง
โดยมีการคาดการณ์กันว่าการเลื่อนการวางจำหน่ายในครั้งนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับวิกฤตสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนก็เป็นได้ เนื่องจากทีมงาน Saber Interactive มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย แต่ทาง CD Projekt Red เองก็ไม่ขอออกความเห็นใดๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งข้อสังเกตนี้
สำหรับซีรีส์ The Witcher เองนอกจากตัวเกมภาค The Witcher 3: Wild Hunt ในเวอร์ชันสำหรับเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่แล้ว ก็ยังมีเกมในภาคใหม่ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาด้วย โดยจะใช้ Unreal Engine 5 ในการพัฒนาเป็นหลักแทนที่การใช้ Red Engine ที่เป็นขุมพลังของทางค่าย ซึ่งเกมในภาคนี้จะได้ทางเจสัน สลามา (Jason Slama) ผู้กำกับจาก Gwent: The Witcher Card Game มาทำหน้าที่ในการเป็นผู้กำกับ
ซึ่งนอกจากเกมเรือธงของทางค่ายแล้วทาง CD Projekt Red เองก็ยังได้มีการขยายแผนการพัฒนาเกมอื่นๆ ควบคู่กันไปพร้อมกันตามแผนงาน RED 2.0 อีกด้วย ด้วยการเริ่มพัฒนาเกมระดับ AAA อีกหนึ่งเกมที่อยู่ภายใต้การดูแลของทีมงาน Digital Scapes และเกมของใหม่ของทางค่าย The Molasses Flood ก็ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเช่นกัน
