เครือ Embracer Group ยังคงเดินหน้าขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง และด้วยการซื้อกิจการของ Gearbox และ Easybrain ในปีงบประมาณที่ผ่านมา ก็ทำให้พวกเขาปิดไตรมาสแรกได้อย่างแข็งแรงด้วยรายได้ราว 389 ล้านเหรียญ
ทาง Embracer Group ได้มีการแถลงผลประกอบการในไตรมาสแรกที่สิ้นสุดลงในวันที่ 30 มิถุนายนออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมียอดขายสุทธิโดยรวมที่เพิ่มขึ้น 66 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจด้านเกมที่ทำรายได้ไป 339 ล้านเหรียญเพิ่มขึ้น 83 เปอร์เซ็นต์แบบปีต่อปี
สำหรับเกมของทาง Embracer Group ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากก็คือ Biomutant ที่ทำยอดขายไปได้แล้ว 1 ล้านยูนิตนับตั้งแต่ที่ได้ออกวางจำหน่ายไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเกมยังทำรายได้คืนทุนการพัฒนาและการทำการตลาดรวมไปถึงมูลค่าในการเข้าซื้อกิจการของทีมพัฒนา Experiment 101 ได้ภายในสัปดาห์แรกของการวางจำหน่าย
และนอกจากนี้เกม Valheim ของทาง Coffee Stain ก็ยังคงทำยอดขายได้แรงอย่างต่อเนื่องด้วยยอด 1.1 ล้านยูนิตในไตรมาสที่ผ่านมา และทำให้ในตอนนี้ตัวเกมทำยอดขายรวมไปได้ 7.9 ล้านยูนิตแล้ว
ซึ่งบริษัทในเครือของ Embracer Group อย่าง Koch Media ก็ยังคงทำรายได้ให้กับบริษัทได้เป็นอันดับที่สองด้วยรายได้รวมทั้งหมด 72.9 ล้านเหรียญเพิ่มขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว โดยมีทาง Saber Interactive ที่มีผลประกอบการติดลบ ด้วยยอดขายสุทธิที่ลดลง 13 เปอร์เซ็นต์จาก 39.9 ล้านเหรียญมาอยู่ที่ 34.9 ล้านเหรียญโดยเป็นผลมาจากการไม่มีเกมออกวางจำหน่ายเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่พวกเขามีเกม Snowrunner ออกวางจำหน่ายนั่นเอง
โดยทาง Embracer Group ยังได้ให้เครดิตกับการควบรวมกิจการของทาง Gearbox Entertainment และ Easybrain เข้ามาอยู่ในเครือเมื่อต้นปีที่ผ่านมาอีกด้วย ที่ช่วยให้พวกเขายังมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก โดย Easybrain สามารถทำยอดขายไปได้ถึง 65.9 ล้านเหรียญ ในขณะที่ Gearbox Entertainment ก็ทำรายได้ไปถึง 50 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
สำหรับธุรกิจคู่ค้าและภาพยนตร์ของทาง Embracer Group ก็ยังเป็นไปในทิศทางบวกด้วยรายได้รวม 53.4 ล้านเหรียญเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 4 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน
โดยทาง ลาร์ส วิงก์ฟอร์ส (Lars Wingefors) ผู้บริหารสูงสุดของ Embracer Group ยังได้ยืนยันอีกด้วยว่าในตอนนี้ทางเครือมีเกมกว่า 180 เกมที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาแล้ว ซึ่งรวมไปถึงเกมของในเครือที่จะได้บริษัทอื่นมาทำหน้าที่ในการวางจำหน่ายเช่นเกม Tiny Tina’s Wonderlands ของทาง Gearbox Entertainment ที่จะได้ทาง 2K มาทำหน้าที่ในการจำหน่ายนั่นเอง
สำหรับในไตรมาสต่อจากนี้ทาง Embracer Group ยังคงหวังพึ่งเกมที่เคยออกวางจำหน่ายไปก่อนหน้าว่าจะยังสามารถทำรายได้ให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง แต่ในไตรมาสที่สามและสี่ทางเครือจะมีการวางจำหน่ายเกมใหม่ที่จะช่วยให้ผลประกอบการเต็มปีของพวกเขาเติบโตมากขึ้นอย่างแน่นอน
โดยทางเครือยังไม่มีการเปิดเผยออกมาว่าเกมที่ออกวางจำหน่ายจะเป็นเกมอะไรหรือจากแฟรนไชส์ไหน แต่ด้วยเกมที่มีการประกาศไปแล้วก็จะทำให้ในไตรมาสที่ 4 ของพวกเขาที่อยู่ในระหว่างเดือนมกราคม ถึงเดือนมีนาคม 2022 จะมีความหนาแน่นมากกว่าที่ประมาณการไว้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ทาง Embracer Group ยังได้ประกาศซื้อกิจการอีกสามแห่งเข้ามาอยู่ในสังกัดเพิ่มเติม ซึ่งประกอบไปด้วย Demiurge Studios, Fractured Byte และ SmartPhone Labs เข้ามาอยู่ภายใต้สังกัดของ Saber Interactive หลังจากที่เมื่อช่วงต้นเดือนพวกเขาพึ่งจะมีซื้อทีมพัฒนาถึง 8 แห่งเข้ามาอยู่ในสังกัด ซึ่งในตอนนี้ทาง Embracer Group มีพนักงานทั้งหมดอยู่ที่ 7,886 คนแล้วเพิ่มขึ้นสองเท่าจากปีที่แล้ว และเป็นพนักงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเกมโดยตรงถึง 6,387 คนเลยทีเดียว