ทาง Ubisoft ได้มีการเปิดเผยในเอกสาร Universal Registration Document ประจำปีของบริษัทว่าพวกเขามีความเสี่ยงปานกลางที่พนักงานในบริษัทจะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และมีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้พวกเขาสูญเสียบุคลากรจากข่าวฉาวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเมื่อปีที่แล้ว
สำหรับรายละเอียดในเอกสาร Universal Registration Document เป็นทางเว็บไซต์ Axios (via. Gamesindustry.biz) ที่ได้นำมารายงาน ซึ่งในเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารแสดงสถานะภายในของบริษัทที่มีการบังคับเผยแพร่ให้เป็นสาธารณะ โดยเนื้อความสำคัญในเอกสารได้ระบุว่า การทำงานภายในของ Ubisoft ยังคงอยู่ในวัฒนธรรมที่มีความเป็นพิษ (toxic culture) และยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับการเหยียดเพศและเชื้อชาติ ที่อาจจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้พวกเขาอาจจะเสียพนักงานที่มีความสามารถ และอาจจะส่งผลต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของบริษัทได้
ซึ่งในเอกสารยังได้มีการระบุอีกด้วยว่าในปี 2020 ที่ผ่านมาทาง Ubisoft ปัญหาเหล่านี้ได้ทำให้นักพัฒนาที่มีความสามารถประกาศลาออกจากบริษัทไปอย่างกะทันหัน และบางตำแหน่งก็ไม่สามารถที่จะหาพนักงานมาทดแทนได้ทันที ซึ่งมันยังส่งผลให้การตัดสินใจต่างๆ ของทีมงานเป็นไปได้ช้า มีการใช้จ่ายที่ล่วงเลยเกินกำหนด และยังทำให้ทีมงานเริ่มไม่แน่ใจกับทิศทางการทำงานอีกด้วย โดยในเอกสารยังได้ระบุอีกด้วยว่าทางบริษัทจะใช้นโยบาย “zero tolerance” หากพบเจอการประพฤติของพนักงานที่ไม่เหมาะสม
และในเอกสาร Universal Registration Document ก็ได้มีการกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในของบริษัทอีกด้วยเพื่อรับมือกับปัญหาพฤติกรรมที่เป็นพิษดังที่ทาง อีฟส์ กีลโมต์ (Yves Guillemot) ได้มีการกล่าวเอาไว้ในแถลงการณ์ก่อนหน้า ซึ่งรวมไปถึงการร่วมพัฒนาเกม Assassin’s Creed ภาคใหม่ที่จะได้ทาง Ubisoft Montréal และ Ubisoft Quebec มาร่วมพัฒนา แต่อย่างไรก็ดีการพัฒนาเกมก็ยังคงมีทาง โจนาธาน ดูมอนต์ (Jonathan Dumont) ที่ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ยังคงได้ทำหน้าที่ในระดับหัวหน้าทีมเช่นเดิม เช่นเดียวกับ อูก ริคอร์ (Hugues Ricour) อดีตผู้กำกับของ Ubisoft Singapore และ ฟลอร็องต์ แคสติญเนรัค (Florent Castelnérac) หัวเรือใหญ่ของทีมงาน Nadeo ในสังกัดของ Ubisoft ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในบริษัทอยู่เหมือนเดิม