บ็อบบี โคติคก์ (Bobby Kotick) ซีอีโอของ Activision Blizzard ประกาศลดเงินเดือนและโบนัสประจำปีของตัวเองลง 50 เปอร์เซ็นต์ หลังจากติดอยู่ในรายชื่อ 100 อันดับของซีอีโอที่ได้รับเงินมากกว่าที่ควรจะเป็น
โดยในแถลงการณ์ของ Activision Blizzard ได้ระบุว่าฐานเงินเดือนของ บ็อบบี โคติคก์ ได้มีการปรับลดลงมาครึ่งหนึ่งแล้วจาก 1.75 ล้านเหรียญมาอยู่ที่ 875,000 เหรียญในปีงบประมาณ 2021 จนถึงปี 2022 โดยในส่วนของโบนัสประจำปีจะถูกจำกัดไว้ที่ 200 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยขึ้นอยู่กับการทำผลงานให้ได้ตามเป้าหมายที่จะเป็นส่วนเพิ่มเติมจาก 1.75 ล้านเหรียญที่เขาได้รับต่อปี
ซึ่งในแถลงการณ์ (via.Gamasutra) ยังได้ระบุอีกด้วยว่าการปรับลดรายได้เข้าเขาในครั้งนี้ได้ทำให้รายได้ต่อปีของเขามีระดับที่ใกล้เคียงกับซีอีโอคนอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเกมแล้ว และยังเป็นการลดช่วงว่างของรายได้ของเขากับเงินเดือนโดยเฉพาะของพนักงานใน Activision Blizzard อีกด้วย
โดยในปี 2019 ได้มีรายงานออกมาว่า บ็อบบี โคติคก์ และ แอนดรูว์ วิลสัน ซีอีโอของ EA เป็นหนึ่งในรายชื่อ 100 ซีอีโอที่ได้รับเงินมากกว่าที่ควรจะเป็นซึ่งตัวของ บ็อบบี โคติคก์นั้นได้รับเงินเดือนสูงกว่าเงินเดือนเฉลี่ยของพนักงานของ Activision Blizzard ถึงสามร้อยเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง บ็อบบี โคติคก์ ได้เคยออกมาหั่นเงินเดือนของเขาลง 15 เปอร์เซ็นต์ในปี 2020 แต่ในเอกสารฉบับปี 2021 ตัวของ บ็อบบี โคติคก์ ก็ยังคงอยู่ในรายชื่อในอันดับที่ 16 ของซีอีโอที่ได้รับเงินมากกว่าที่ควรจะเป็น โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่มีก็สามารถระบุได้ว่า บ็อบบี โคติคก์ นั้นได้รับเงินไปกว่า 30 ล้านเหรียญในปี 2020 ซึ่งมากกว่าค่ากลางเงินเดือนของพนักงาน Activision Blizzard ถึง 319 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำให้มีคณะกรรมการถึง 28 เปอร์เซ็นต์ที่รวมลงชื่อให้เขาลดส่วนแบ่งในตรงนี้ลง
โดยนอกจาการนี้เมื่อปีที่ผ่านมายังมีรายงานออกมาอีกด้วยว่าทางผู้ถือหุ้นของ Activision Blizzard ไม่พอใจกับส่วนแบ่งที่ บ็อบบี โคติคก์ ได้รับเป็นอย่างมากและเริ่มออกมาเรียกร้องให้เขาลดเงินที่เขาได้รับรายปีลงจากเดิม จากการที่ตัวของเขาได้ส่วนแบ่งเป็นหุ้นของ Activision Blizzard ที่มีมูลค่าราว 20 ล้านเหรียญต่อปีมาเป็นเวลาหลายปีอีกด้วย
ซึ่งรายได้ของ บ็อบบี โคติคก์ นั้นส่วนทางกับแนวทางของบริษัทหลังจากที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทาง Activision Blizzard ได้มีการปลดพนักงานไปหลายรอบ ในช่วงที่ทางบริษัทมักจะมีการประกาศถึงความสำเร็จโดยรวมทางด้านการเงินของบริษัท
โดยในแถลงการณ์ยังได้ระบุอีกด้วยว่าการปรับลดเงินเดือนของเขาในครั้งนี้เป็นความตั้งใจโดยตัวเขาเองโดยปราศจากแรงกดดันจากเหล่าคณะกรรมการบริหารและนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งได้ยืนยันออกมาอย่างเป็นทางการอีกด้วยว่า รายได้ของเขานั้น “จะเป็นการสะท้อนจากเสียงตอบรับจากเหล่าผู้ถือหุ้น, ความสามารถทางการตลาดอย่างเป็นระบบ, และจะเชื่อมโยงกับประสิทธิภาพการทำงานของเขาโดยตรงเหมือนเช่นเดิม”