CD Projekt แถลงผลประกอบการประจำปี

CD Projekt Red เปิดเผยผลประกอบการประจำปีออกมาแล้ว โดยในปีงบประมาณ 2020 ที่ผ่านมาพวกเขาทำยอดขายไปได้ถึง 563 ล้านเหรียญ ซึ่งมากขึ้นกว่าเดิมถึงสี่เท่าจากปี 2019 ซึ่งเป็นผลมาจากการออกวางจำหน่ายเกม Cyberpunk 2077 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา

Cyberpunk 2077 เรียกได้ว่าเป็นเกมที่ได้รับความคาดหวังเป็นอย่างมากในช่วงก่อนออกวางจำหน่ายและมันก็ไม่ทำให้ทาง CD Projekt Red ผิดหวังเมื่อตัวเกมทำยอดขายรวมไปได้ถึง 13.7 ล้านก๊อบปี้ภายในช่วงสิ้นปี 2020 ที่ผ่านมาและได้กลายมาเป็นเกมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา แม้ว่าเกมจะมีปัญหาหลังการวางจำหน่ายมากมายจนทำให้ทาง Sony ถอดออกจากหน้าร้านค้าของ PlayStation Store และมีการเปิดให้ผู้เล่นที่ไม่พอใจขอเงินคืน ตามมาด้วยทาง Microsoft เองที่ได้เปิดบริการขอเงินคืนให้ในภายหลังสำหรับผู้ที่ซื้อตัวเกมไปเช่นกันอีกด้วย

ซึ่งในรายงานแถลงผลประกอบการประจำปีในส่วนของ “Other Provisions” นั้นยังได้มีการระบุเอาไว้อีกด้วยว่าทาง CD Projekt Red นั้นได้ใช้เงินไปเป็นจำนวนกว่า 10.65 ล้านเหรียญไปกับคืนเงินให้กับผู้เล่นที่ซื้อเกมไปทั้งในรูปแบบดิจิทัลและแบบแผ่นจากร้านขายปลีกในปี 2020 และพวกเขาก็ยังใช้เงินไปอีกกว่า 2.23 ล้านเหรียญไปกับการคืนเงินผ่านแคมเปญ “Help me Refund” ของพวกเขาเองอีกด้วย ซึ่งหากประมาณการคร่าวๆ นั่นหมายความว่ามีผู้เล่นราว 215,000 รายที่ได้รับเงินคืนซึ่งตีเป็น 1.6 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเกมที่ทาง CD Projekt Red ขายไปได้ และพวกเขาเองก็ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากโครงการคืนเงินต่างๆ อีกด้วยที่มีการคาดการณ์กันว่าพวกเขาอาจสูญเสียรายได้จากส่วนนี้ไปอีกถึง 38.34 ล้านเหรียญเลยทีเดียว ซึ่งรวมไปถึงผลกระทบจากการที่เกมของพวกเขายังคงถูกถอดออกจากหน้าร้านค้า PlayStation Store มาจนถึงทุกวันนี้

ซึ่งรายได้ที่สูญเสียรวมทั้งหมด 51 ล้านเหรียญอาจจะดูไม่สำคัญมากนักหากเทียบกับกำไรสุทธิของพวกเขาที่ทำได้ในปีนี้ที่ 301 ล้านเหรียญ แต่หุ้นของพวกเขาที่อยู่ในตลาดก็ยังคงมีมูลค่าลดลงนับตั้งแต่ที่เกมได้มีการประกาศให้คืนเงินอย่างเป็นทางการและยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับคืนสู่มูลค่าดั้งเดิม อย่างไรก็ดีแม้ Cyberpunk 2077 จะเป็นตัวทำเงินของพวกเขาในปีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือในปีที่ผ่านมาเกม The Witcher 3 เองก็ยังคงทำรายได้ให้กับทาง CD Projekt Red ได้อย่างน่าประทับใจและเป็นปีที่ทำรายได้มากที่สุดเป็นปีที่สองในประวัติศาสตร์ของการวางจำหน่ายด้วยยอดขายรวมที่ทะลุ 30 ล้านก๊อบปี้ไปแล้ว

Share this article
0
Share
0 Share
0 Tweet
0 Share
0 Share
Shareable URL
0
Share