Unreal Engine 5 เปิดตัวพร้อมเผยเดโมแสดงศักยภาพของเครื่อง PlayStation 5

Epic Games เปิดตัวเกมเอนจินรุ่นใหม่ที่จะเป็นขุมกำลังสำหรับเกมในยุคหน้าออกมาแล้วกับ “Unreal Engine 5” ที่จะมาพร้อมกับเครื่องใหม่ชิ้นใหม่สำหรับนักพัฒนาเกมอย่าง “Lumens” และ “Nanite” ที่จะเป็นการช่วยเหลือให้เหล่านักสร้างเกมสามารถสร้างงานกราฟิกในเกมได้ในระดับเดียวกับวงการภาพยนตร์

โดยทาง Epic Games ได้มีการปล่อยตัวเดโมโชว์เทคโนโลยีใหม่นี้ของพวกเขาออกมาให้เราได้ชมกันโดยมันเป็นเดโมที่ใช้ชื่อว่า “Lumen in the Land of Nanite” ซึ่งตัวเดโมนี้เป็นเดโมที่สามารถเล่นได้ทั้งหมด และยังใช้เครื่อง PlayStation 5 ในการรันตัวเดโมนี้อีกด้วย

ซึ่ง Unreal Engine 5 นั้นจะมาพร้อมกับเครื่องมือใหม่สองชิ้นได้แก่ “Lumens” ที่จะเป็นเครื่องมือสำหรับการสร้างระบบแสงที่เปลี่ยนแปลงตามพลวัต (dynamic global illumination) และ “Nanite” เครื่องมือสำหรับจำลองวัตถุเรขาคณิตที่จะทำให้เหล่าศิลปินสามารถนำเอาชิ้นงานที่มีคุณภาพในระดับเดียวกับวงการภาพยนตร์เข้ามาใส่ในตัว Unreal Engine ได้นั่นเอง

“ผมคิดว่าหลายคนจะต้องถามแน่ๆ ว่าเดโมตัวนี้มันของจริงหรือเปล่า แต่คุณรู้มั้ยครับว่าเดโมตัวนี้มันรันจากชุด development kit ของเครื่อง PlayStation 5 เลยครับ” คิม ลิเบรอรี (Kim Libreri) , CTO ของ Epic Games ให้สัมภาษณ์กับทาง IGN “เราต่อสาย HDMI เข้ากับดิสก์บันทึกข้อมูลและเราก็เล่นมันแบบสดๆ ไม่มีการตัดต่อ ไม่มีการใช้เทคนิคใดๆ มันมาจากเจ้ากล่องนั่นโดยตรงเลย” โดยทาง ทิม สวีนีย์ (Tim Sweeney) เจ้าของ Epic Games ยังได้เผยอีกด้วยว่า SSD ที่มันอยู่ในชุดสำหรับนักพัฒนานั้นมันไปไกลกว่า SSD ที่ใช้อยู่ในเครื่อง PC ระดับ high-end ในตอนนี้เป็นอย่างมาก

คิม ลิเบรอรี ยังได้บอกอีกด้วยว่าเป้าหมายของพวกเขาก็คือการสร้างโลกเกมที่จะให้ความรู้สึกดำดิ่งและสมจริงเทียบเท่ากับภาพยนตร์ในยุคปัจจุบันนี้ แต่มันก็มีเป้าหมายอื่นที่แตกต่างไปจากการสร้างเอนจินในเจอเนอเรชันก่อนนั่นคือวิธีในการปฏิสัมพันธ์กับความสมจริงเหล่านั้นนั่นเอง

นั่นเพราะแม้เกมในเจอเนเรชันนี้จะมีความสมจริงแล้ว แต่มันก็ยังเป็นสิ่งที่อยู่นิ่งและไม่มีการเปลี่ยนแปลงแบบพลวัตนักซึ่งจากที่เราได้เห็นในตัวเดโมนี้เราจะพบว่าสภาพแวดล้อมของฉากต่างๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์ ซึ่งนั่นคือศักยภาพของ Unreal Engine 5 นั่นเองที่ทำให้มันสามารถเรนเดอร์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที

ตัวอย่างเช่น เศษหินที่ร่วงหล่นนั้นมันไม่ได้ใช้การพรีเรนเดอร์การเปลี่ยนแปลงล่วงหน้า แต่มันเป็นการใช้ตัววัตถุที่เป็นหินที่มีการเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ขึ้นอยู่กับการกระทำของผู้เล่นจริงๆ และเมื่อแหล่งกำเนิดแสดงมีการเปลี่ยนแปลง มันไม่ใช่ทำการจำลองแสงแบบการฉายไฟฉายจากหลายมุม แต่มันเป็นการประมวลผลแบบเรียลไทม์ทั้งหมดอีกด้วย

“ถ้าคุณลองสังเกตให้ดีวิดีโอเกมส่วนใหญ่ในตอนนี้จะมีสภาพแวดล้อมที่แน่นิ่ง คุณจะรู้สึกได้เลยว่ามันไม่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งมันไม่เป็นเหตุเป็นผลนัก คุณต้องโชคดีมากแน่ๆ หากคุณสามารถเปลี่ยนแปลงสภาวะ ณ ปัจจุบันของเกมได้ และกลับมาอีกครั้งพร้อมกับการได้เห็นมันเปลี่ยนแปลงไปจริงๆ ซึ่ง Unreal Engine 5 สามารถทำให้ทุกสิ่งอย่างมีความเป็นพลวัตได้ทั้งหมด”

แต่ด้วยการที่มันจะต้องใช้วัตถุหรือโมเดลที่มีคุณภาพสูงในระดับเดียวกับวงการภาพยนตร์ มันก็นำไปสู่คำถามที่ว่าเหล่าศิลปินและนักพัฒนาเกมจะสามารถทำโมเดลคุณภาพสูงออกมาได้อย่างไร เพราะโดยปกติแล้วในวงการภาพยนตร์มักจะใช้งานโมเดลของวัตถุต่างๆ ในระดับคุณภาพสูงอยู่แล้วผิดกับวงการเกมที่จำเป็นจะต้องลดความละเอียดของวัตถุลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

“สิ่งที่น่าสนใจก็คือส่วนใหญ่แล้วศิลปินจะใช้เวลาในการสร้างโมเดลที่มีจำนวนโพลีกอนสูงมากๆ อยู่แล้ว พวกเขาก็เพียงแค่ใช้ขั้นตอนเพิ่มอีกเล็กน้อยเท่านั้นในการสร้างโมเดลที่ว่าในเวอร์ชันที่มีจำนวนโพลีกอนต่ำ (low-poly) ออกมา จากนั้นก็ใช้เวลากับมันอีกในการปรุงแต่งให้มันความละเอียดระดับสูงกลายเป็นพื้นผิวธรรมดา (normal map)” นิค เพนวอร์เดน (Nick Penwarden) , รองประธานฝ่ายวิศวกรรมของ Epic Games อธิบาย “แต่ในตอนนี้พวกเขาไม่จำเป็นจะต้องไปเพิ่มงานในการปรับแต่งโมเดลที่มีจำนวนโพลีกอนต่ำอย่างที่ว่ามานี้อีกแล้ว และพวกเขาก็ยังจะได้งานภาพที่มีคุณภาพสูงขึ้นจากเดิมอีกด้วย”

ทาง Epic Games ยังได้กล่าวอีกว่าเดโมที่เราได้เห็นกันไปนั้นมันสามารถทำซ้ำได้ง่ายกว่าแต่ก่อนเป็นอย่างมาก แม้แต่กับทีมพัฒนาขนาดเล็กที่แต่ก่อนพวกเขาไม่มีความสามารถในการเรนเดอร์งานในระดับนี้มาก่อน ซึ่งโมเดลหรือวัตถุคุณภาพสูงเหล่านี้ยังมีการวางจำหน่ายใน Unreal Store ให้เหล่านักพัฒนาสามารถนำไปใช้งานได้โดยง่ายอีกด้วย

“มันง่ายจริงๆ ครับ คุณแต่ไปที่ Quixel asset store จากนั้นก็ดาวน์โหลดหินและภูเขาหรือวัตถุอื่นๆ ที่คุณต้องการมาวางในที่ที่คุณอยากจะวางเลย จริงๆ แล้วมันช่วยลดระดับกำแพงได้เป็นอย่างมากในการเข้าถึงการสร้างเลเวลที่มีความซับซ้อนของเกม”

นอกจากนี้ทาง Epic Games ยังได้มีการประกาศอีกด้วยว่าพวกเขาจะมีผ่อนผันค่าสิทธิ์ในการใช้งาน Unreal Engine 5 สำหรับรายได้ใน 1 ล้านเหรียญแรกของเกมที่ใช้ Unreal Engine ในการสร้าง และนอกจากนี้พวกเขายังได้มีการเปิดตัวระบบ Epic Online Service อีกด้วยที่จะทำให้การสร้างเกมที่รองรับระบบ cross-platform สามารถทำได้ง่ายขึ้น

โดย Fortnite เกมเรือธงของพวกเขาก็จะมีการประยุกต์ตัวเกมเข้ากับ Unreal Engine 5 ในช่วงกลางปี 2021 อีกด้วย โดยทาง ทิม สวีนีย์ ได้เผยว่า Fornite จะเป็นเกมแรกที่ใช้ Unreal Engine 5 แสดงผล แต่ในตอนนี้มันก็มีเกมในเจอเนอเรชันใหม่อยู่เป็นจำนวนมากที่ใช้ Unreal Engine 4 อยู่ ซึ่งเราก็คงต้องรอกันสักพักว่าที่จะได้เห็นเกมจากค่ายอื่นๆ เปลี่ยนมาใช้งาน Unreal Engine 5 โดยทาง Epic Games เองก็มีเกมที่กำลังพัฒนาอยู่ในตอนนี้ซึ่งยังไม่มีการยืนยันว่ามันจะใช้ Unreal Engine 5 ในการพัฒนาด้วยหรือไม่

Unreal Engine 5 จะมีการเปิดให้ใช้งานแบบพรีวิวในช่วงต้นปี 2021 โดยจะมีการเปิดให้ใช้งานกันอย่างเต็มรูปแบบภายในปีดังกล่าวและจะรองรับการพัฒนาเกมทั้งบนเครื่องเกมในยุคปัจจุบัน เครื่องเกมในยุคหน้า, PC, Mac, iOS และ Android

Share this article
0
Share
0 Share
0 Tweet
0 Share
0 Share
Shareable URL
0
Share