Riot Games ผู้สร้างเกม League of Legends เปิดตัวเกมใหม่ของพวกเขาออกมาอย่างเป็นทางการแล้วกับเกมยิงมัลติเพลเยอร์ที่จะใช้ชื่อว่า “Valorant” หรือที่หลายคนอาจจะจดจำได้กับ “Project A” ที่เคยมีเปิดตัวให้เราได้เห็นกันไปในช่วงปลายปีที่แล้ว และในวันนี้มันก็ได้มีการปล่อยข้อมูลรายละเอียดการเล่นออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว
สำหรับ Valorant มันเป็นหนึ่งในโปรเจกต์เกมใหม่ที่ทาง Riot Games ได้มีการเปิดตัวในงานครบรอบ 10 ปีของ League of Legends เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเดิมทีแล้วมันใช้ชื่อในตอนเปิดตัวว่า Project A ซึ่งเป็นเกมยิงกลยุทธ์ที่เน้นหนักไปที่ตัวละคร (character-based tactical shooter) ที่ทาง Riot Games ได้พัฒนาขึ้นเพื่อสร้างแนวทางใหม่ๆ ให้กับทางค่ายหลังจากที่เปิดให้บริการ League of Legends ซึ่งเป็นเกมแนว MOBA เกมเดียวมาเป็นเวลานาน ซึ่งในวันนี้ก็ได้มีการออกมาแถลงการณ์แล้วว่าชื่ออย่างเป็นทางการของ Project A ก็คือ “Valorant” นั่นเอง
โดย Valorant นั้นจะเป็นเกมยิงกลยุทธ์แบ่งทีมแบบ free-to-play ในรูปแบบ 5 ต่อ 5 โดยในแต่ละการแข่งขันจะประกอบไปด้วยเกมการเล่นทั้งหมด 25 รอบโดยฝ่ายที่สามารถเอาชนะ 13 รอบไปได้ก่อนจะกลายเป็นผู้ชนะ และในการเริ่มเล่นในแต่ละการแข่งขันนั้นผู้เล่นจะสามารถเลือกตัวละครที่ในเกมจะเรียกว่า “Agent” ได้ ซึ่งแน่นอนว่า Agent แต่ตัวละครก็จะมีความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่นความสามารถในการหลบหลีกอย่างรวดเร็ว (dash) , การสร้างม่านควัน, การสร้างกำแพง หรือแม้แต่จะเรียกการโจมตีสนับสนุนจากทางอากาศก็มี แต่อย่างไรก็ดีผู้เล่นจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวละครในระหว่างการแข่งขันได้ ซึ่งนั้นหมายความว่าผู้เล่นอาจจะต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากได้หากเลือกตัวละครในเน้นหนักไปในทางตั้งรับในระหว่างที่เล่นเป็นฝ่ายบุกได้นั่นเอง
สำหรับรูปแบบการเล่นในการแข่งขันนั้นจะคล้ายคลึงกับโหมดเล่น Defuse ในเกม Counter Strike โดยทั้งสองทีมจะได้ผลัดกันเล่นเป็นทั้งฝ่ายบุกและฝ่ายป้องกัน โดยที่ฝ่ายบุกจะต้องนำเอาระเบิดซึ่งใน Valorant จะเรียกว่า “Spike” ไปวางไว้หนึ่งในหลากหลายสถานที่ในแผนที่ให้ได้ และเมื่อฝ่ายบุกสามารถวาง Spike ได้แล้วจะต้องทำการป้องกันให้ได้จนกว่า Spike จะระเบิดออกมา สำหรับฝ่ายป้องกันนั้นก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการหาทางยับยั้งฝ่ายบุกให้ได้ ซึ่งผู้เล่นแต่ละคนจะมีชีวิตเดียวเท่านั้นในแต่ละรอบ โดยหากทีมใดทีมหนึ่งถูกกำจัดไปจนหมดอีกทีมหนึ่งก็จะเป็นฝ่ายได้ชัยชนะไปในทันที
นอกจากนี้เกม Valorant ยังมีการออกแบบเกมมาเพื่อสนับสนุนการแข่งขันโดยเฉพาะอีกด้วย ซึ่งตัวเกมจะประกอบไปด้วยโหมดการเล่น Casual และ Ranked อย่างแน่นอน โดยนอกจากตัวละครที่ผู้เล่นจะสามารถเลือกเล่นได้แล้วตัวเกมจะมีการเปิดให้ผู้เล่นได้ทำการจับจ่ายเพื่อซื้ออาวุธได้ในทุกๆ รอบเช่นเดียวกับเกมอย่าง Counter Stike ซึ่งอาวุธปืนก็จะยังคงมีความคล้ายคลึงกับรูปแบบของปืนที่เราได้เห็นกันในปัจจุบัน โดยมันจะมีทั้งปืนประเภท assault rifle, shotgun, submachine gun และ light machine gun ซึ่งอาวุธโดยส่วนใหญ่ยังสามารถทำความเสียหายแบบนัดเดียวตายได้หากยิงตรงเป้าเข้าที่หัวของเป้าหมายได้พอดิบพอดี และความสามารถพิเศษของตัวละครนั้นก็เป็นสิ่งที่ผู้เล่นจะต้องทำการซื้ออีกด้วยและมันจะใช้ได้เพียงครั้งเดียวในแต่ละรอบเท่านั้น นั่นจึงทำให้โดยหลักแล้วเกมการเล่นของ Valorant ก็ยังคงเน้นหนักไปที่การยิงต่อสู้เป็นหลักนั่นเอง
ในส่วนของเรื่องราวที่จะเป็นฉากของ Valorant นั้นมันจะแตกต่างไปจากเกมอย่าง League of Legends โดยมันจะยังคงเป็นเกมที่มีฉากหลังอยู่ในโลกของเราแต่จะเป็นเวอร์ชันที่อยู่ในโลกอนาคตอันใกล้ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์หายนะบางอย่างในโลกอนาคตที่กำลังจะมาถึงจนทำให้โลกต้องมีการสร้างรัฐบาลขึ้นมาเพื่อควบคุมความสงบและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการปกครองใหม่ โดยนอกจากมันจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแล้วหายนะดังกล่าวยังได้มอบพลังอันเหนือธรรมชาติให้กับผู้คนบางกลุ่มอีกด้วย และผู้คนบางคนที่ได้รับพลังนี้ได้กลายมาเป็นเหล่า Agent แห่งองค์กรที่ชื่อว่า Valorant โดยตัวเกมจะมีการเล่าเรื่องรางทั้งฝ่ายตัวเกม และผ่านภาพยนตร์แอนิเมชันสั้น ซึ่งมันจะส่งผลต่อบทสนทนา, ภาพลักษณ์ของ Agent และสภาพแวดล้อมของแผนที่ตามสไตล์ของ Riot Games
สำหรับในส่วนของระบบ microtransaction ในเกมนั้นตัวเกม Valorant จะมีระบบสกินของอาวุธปืนเท่านั้นให้ผู้เล่นสามารถทำการจับจ่ายพื้นซื้อมาใช้งานได้ หรือทำตามเงื่อนไขที่เกมกำหนดโดยเกมจะไม่มีระบบ loot box อย่างแน่นอนโดยที่ผู้เล่นสามารถเลือกซื้อสกินของอาวุธปืนที่อยากได้จากหน้าร้านค้าได้ทันที แต่สำหรับสกินของตัวละครทาง Riot ยังไม่มีแผนการที่จะใส่เข้ามาในตอนนี้รวมไปถึงระบบ battle pass เองก็ยังไม่มีการยืนยันออกมาแต่อย่างใด
โดยทาง Riot Games นั้นตั้งเป้าหมายที่จะมีการเปิดตัว Close beta ให้ผู้เล่นได้ทำการทดสอบในช่วงแรกซึ่งยังไม่มีกำหนดการออกมาอย่างเป็นทางการในตอนนี้ แต่อย่างไรก็ดีทาง Riot Games ได้มีการวางแผนเอาไว้ว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงซัมเมอร์ของปี 2020 หรือช่วงราวเดือนมิถุนายน-กันยายนนั่นเอง