Embracer Group หรืออดีต THQ Nordic AB ได้เข้าซื้อกิจการของทีมงาน Saber Interactive ผู้สร้างเกม World War Z และผู้ทำการพอร์ทเกม The Witcher ลงให้กับเครื่อง Nintendo Switch อย่างเป็นทางการแล้วด้วยมูลค่าที่สูงถึง 525 ล้านเหรียญ
สำหรับทีมงาน Embracer Group พวเขาได้มีการเข้าซื้อกิจการของบริษัทเกมขนาดเล็กมาอยู่ในสังกัดมากมายในระยะหลัง ไม่ว่าจะเป็นการคว้าเอาบริษัทอย่าง Koch Media, Coffee Stain Holding และ THQ Nordic มาอยู่ในสังกัดซึ่ง Saber Interactive ก็กำลังจะได้ไปอยู่ภายใต้ร่มงานของ Embracer Group อีกหนึ่งค่ายแล้ว
สำหรับการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ทาง Embracer Group ได้มีการจ่ายเงินลงทุนล่วงหน้าให้กับทาง Saber Interactive เป็นจำนวนเงิน 150 ล้านเหรียญ ในขณะที่อีก 375 ล้านเหรียญนั้นจะมีการทะยอยจ่ายด้วยสัญญา 3 ปีที่ขึ้นอยู่กับผลงานของสตูดิโอในต่อจากนี้
โดยในส่วนของทีมงาน Saber Interactive พวกเขาได้มีการก่อตั้งสตูดิโอแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2001 ซึ่งในตอนนี้พวกเขาก็มีพนักงานเป็นจำนวนกว่า 600 คนเข้าไปแล้วและยังมีทีมงานภายในอีกถึง 5 สตูดิโอด้วยกันที่ช่วยเหลือในการพัฒนาเกมต่างๆ ของบริษัท โดยเมื่อปีที่ผ่านมาพวกเขาก็สามารถทำกำไรไปได้กว่า 100 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
และการเข้าของ Embracer Group จะไม่ส่งผลใดๆ ต่อการทำงานของ Saber Interactive อีกด้วย โดยพวกเขาจะไม่มีการปรับโครงสร้างใหม่และปรับลดคนงานลงเพื่อลดต้นทุนลงอย่างแน่นอน ซึ่งทางคุณ Matthew Karch และ Andrey Iones สองผู้ร่วมก่อตั้ง Saber Interactive ยังได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่สองของ Embracer Group อีกด้วย ซึ่งการเข้าซื้อกิจการของทีมงาน Saber Inteactive นั้นมันเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการตลาดที่พวกเขาได้วางแผนเอาไว้แล้วตั้งแต่ปี 2019 ที่ผ่านมา และทำให้ในตอนนี้พวกเขามีทีมพัฒนาเกมกว่า 31 สตูดิโออยู่ในมือแล้วพร้อมด้วยพนักงานราว 2,600 คนเลยทีเดียว
“Saber เป็นทีมงานที่อยู่นอกสายตามาเป็นเวลานานเพราะผลงานที่ผ่านมาของพวกเขามันมีคุณภาพสูงและมีความต่อเนื่องเป็นอย่างมาก” คุณ Lars Wingefors, CEO ของ Embracer Group กล่าว
“ความทะเยอทะยานของพวกเขาในการสร้างโปรเจกต์ที่ใช้เงินทุนของตัวเองในช่วงปีที่ผ่านมันเป็นสิ่งที่น่าประทับใจมาก โดยเฉพาะกับเกม World War Z ที่ทำยอดขายไปมากกว่าสามล้านชุดเลยทีเดียว”
