Nioh ในภาคแรกคือเกมแอ็กชันสวมบทบาทของทีมพัฒนา Team Ninja มันคือหนึ่งในเกมที่นำเอากลไกการเล่นในแบบฉบับ “Souls-like” เข้ามาประยุกต์ด้วยรูปแบบเฉพาะตัวของทีมสร้าง บนโลกเกมญี่ปุ่นในยุคโบราณที่เจือปนด้วยความเป็นแฟนตาซี ผสานเรื่องราวของเหล่าภูตผีโยไก ซึ่งใน Nioh 2 เกมภาคต่อที่จะออกวางจำหน่ายในปีนี้ มันก็จะความเด่นชัดในความเฉพาะตัวที่มากยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมกับความหลากหลายและเข้าถึงได้ง่ายกว่าที่ผ่านมา
เนื้อเรื่องเป็นช่วง Prequel
Nioh 2 จะเป็นเรื่องราวปฐมบทของ Nioh ในภาคแรกซึ่งหมายความว่าผู้เล่นไม่จำเป็นที่จะต้องรู้เรื่องราวของเกมในภาคแรกมาก่อนก็ได้ในการเริ่มต้นเล่นเกมภาคนี้ โดยตัวเกมจะมีเนื้อหาสมบูรณ์ในตัวของมันเอง และจะมีเรื่องราวในเกมจะอยู่ในเหตุการณ์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 ซึ่งในเกมภาคนี้ผู้เล่นจะได้สร้างตัวละครของตัวเองขึ้นมา โดยมีโยไกเป็นส่วนหนึ่งของตัวละครอีกด้วย
“เส้นเรื่องหลักทางประวัติศาสตร์จะเป็นเรื่องของ (Toyotomi) Hideyoshi ครับ เขาคือหนึ่งในขุนพลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งจริงๆ แล้วเขาก็คือคนสองคนนั่นคือตัวคุณและ Toukichiro คนทั้งสองคือ Hideyoshi ที่จะถูกผูกพันเข้ากับเรื่องราวที่เป็นแก่นกลางของเกม” คุณ Fumihiko Yasuda ผู้ควบคุมงานสร้างของเกม Nioh 2 อธิบายถึงเรื่องราวของเกมในการให้สัมภาษณ์กับทางนิตยสาร Game Informer ซึ่ง Toukichiro ก็คืออีกหนึ่งตัวละครหลัก ซึ่งเรื่องราวในเกมก็จะทำให้เราได้ทราบถึงเรื่องราวที่ทำให้เขากลายเป็นขุนศึก Toyotomi Hideyoshi ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นเอง
ระบบการใช้ศาสตราวุธที่หลากหลาย
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Nioh มีความแตกต่างไปจาก Dark Souls ก็คืออาวุธแต่ละชนิดจะมาพร้อมกับการตั้งท่า (stance) สามรูปแบบในการโจมตีแบบ สูง, กลาง, ต่ำ ซึ่งในแต่ละการตั้งท่ามันจะมาพร้อมกับท่วงท่า (movesets) ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในเกมภาคสองนี้อาวุธแต่ละชนิดก็จะมีผังสกิลให้ผู้เล่นได้ทำการอัปเกรดในการปลดล็อกท่วงท่าใหม่ๆ ซึ่งการที่จะปลดล็อกสกิลในผังนั้น ผู้เล่นก็จะต้องทำการสะสมค่าประสบการณ์จากการใช้อาวุธในแต่ละชนิดให้เชี่ยวชาญจนได้รับแต้มสกิลของอาวุธชนิดนั้นๆ มาเพื่อใช้ในการอัปเกรดท่วงท่าใหม่ๆ นั่นเอง
อาวุธต่างๆ ในเกม NioH ภาคแรกจะยังคงกลับมาให้เราได้ใช้งานกันในภาคนี้ โดยจะมีอาวุธชนิดใหม่อีกสองชนิดที่เพิ่มเติมเข้ามานั่นคิอ”ขวานคู่” และ “Switchglaive” ซึ่งเป็นอาวุธที่ทางทีมงานได้เลือกเพิ่มเติมเข้ามาโดยผ่านการคิดเป็นอย่างดีในการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งอาวุธบางชิ้นในเกมมันยังมาพร้อมกับร่างโยไกอีกด้วย ที่ผู้เล่นสามารถใช้มันสร้างรูปแบบการโจมตีอันทรงพลังได้ในระยะเวลาการใช้งานอันจำกัด
ซามูไรพลังโยไก
Yokai Move คือหนึ่งในฟีเจอร์หลักที่ Nioh 2 ได้เพิ่มเติมเข้ามามันคือท่วงท่าพิเศษที่ตัวละครของผู้เล่นจะได้รับมาจากเหล่าโยไกที่ล่วงลับจากการสังหารของผู้เล่น ซึ่งจะทำให้รูปแบบของการต่อสู้ในเกมภาคนี้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมากในการเป็นหนึ่งในตัวช่วยให้กับผู้เล่นในสถานการณ์ต่างๆ ตัวอย่างเช่นในตอนที่ผู้เล่นถูกศัตรูต้อนจนมุม มันก็จะมีท่วงท่าโยไกที่สามารถเรียกค้อนวิญญาณออกมาช่วงโจมตีเป็นการเปิดทางได้ หรือการปัดป้องการโจมตีจากเหล่าศัตรูที่พุ่งเข้าใส่ก็สามารถทำได้ด้วยการเรียกวิญญาณออกมาได้เช่นกัน และสิ่งที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากก็คือระบบ Yokai Shift ที่สามารถทำให้ผู้เล่นกลายเป็นหนึ่งเดียวกับปีศาจช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะทำให้การต่อสู้กับเหล่าอสูรกายนั้นไม่ใช่เรื่องน่าหวาดหวั่นอีกต่อไป โดยสิ่งต่างๆ เหล่านี้สามารถทำการปรับแต่งได้ใน Dark Realm ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกใช้งานพลังโยไกได้อย่างอิสระอีกด้วย
ระบบ AI ตัวช่วย
เช่นเดียวกับในเกม Souls-like เกมอื่นๆ บ่อยครั้งที่ผู้เล่นจะถูกถาโถมด้วยจำนวนของเหล่าศัตรูที่มากกว่า แต่ใน Nioh 2 ผู้เล่นจะได้ร่วมต่อสู้ไปกับเพื่อนๆ บนโลกออนไลน์ได้ ด้วยการเรียกตัวพวกเขามาผ่านระบบออนไลน์ของเกม แต่พวกเขาจะไม่ใช่ผู้เล่นที่เป็นคนจริงๆ แต่จะเป็นตัวละครที่ควบคุมโดย AI ของเกม
ซึ่งตัวละครเหล่านี้ก็คือเหล่าตัวละครที่ผู้เล่นคนอื่นๆ ปั้นขึ้นมานั่นเอง การเรียกตัวละครเพื่อนของเราสามารถทำได้หลังจากพบเจอ “Benevolent Graves” ในเกมซึ่งนอกจากจะเรียกตัวละครที่ AI ควบคุม ผู้เล่นยังสามารถใช้ไอเทม Ocha Tea ในการเรียกตัวละครที่เป็นผู้เล่นจริงๆ อีกสองคนมาร่วมเล่นด้วยกันได้ตามแบบฉบับของเกม Dark Souls ที่ผู้เล่นที่เรียกมานั้นอาจเป็นมิตรหรือศัตรูของเราก็เป็นได้
โดยเกม Nioh 2 จะออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 มีนาคมนี้เฉพาะบนเครื่อง PlayStation 4 เท่านั้น
หมายเหตุ: บทความนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ และอาจมีเนื้อหาเพิ่มเติมจนกว่าเกมจะออกวางจำหน่าย
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
- Official PlayStation Mangazine
- Nioh 2 – Game Informer
- Nioh 2: everything we know about Team Ninja’s next samurai game