ท่ามกลางเกมที่ลอกเลียนแนวทางของเกม Dark Souls กันอย่างดาษดื่นมาเป็นทศวรรษนับตั้งแต่ที่มันได้ออกวางจำหน่าย หนึ่งในเกมที่สามารถเฉิดฉายและมีแนวทางเป็นของตัวเองได้ก็คือ The Surge ผลงานของทีมงาน Deck 13 ที่ได้หยิบเอากลไกการเล่นในรูปแบบเดิมที่เราคุ้นชินมาปรับแต่งใหม่ภายใต้โลกไซไฟ-ดิสโทเปีย และมันก็กำลังจะได้กลับมาอีกครั้งใน The Surge 2 กับกลไกการเล่นที่ได้วิวัฒนาการขึ้นไปอีกขั้น
เนื้อเรื่องใน The Surge 2
เรื่องราวใน The Surge 2 เล่าเรื่องเหตุการณ์ต่อจากเหตุการณ์ในภาคแรกเป็นเวลา 2 ปี โดยในภาคนี้เรื่องราวจะมีการดำเนินเรื่องอยู่ในเมือง Jericho ตั้งแต่แรกเริ่ม หลังจากที่เครื่องบินโดยสารของตัวเอกได้ถูกพายุปริศนาพัดกระหน่ำจนตกลงมาที่เมืองแห่งนี้ และได้ตื่นขึ้นมาในสัปดาห์ให้หลังแต่ก็ได้พบว่าตัวเขาได้ติดอยู่ในเขตกักกันใจกลางของเมือง Jericho ที่เต็มไปด้วยโรคร้ายจากเทคโนโลยี Nanite และกำลังจะถูกกวาดล้างภายใต้กฎอัยการศึกนั่นเอง ซึ่งมันก็เป็นหน้าที่ของผู้เล่นที่จะต้องค้นหาต้นตอของโรคร้ายในครั้งนี้ และหาทางหยุดยั้งไปพร้อมกับหนีการตามล่าจากการกวาดล้างไปให้ได้
ใน The Surge 2 นั้นผู้เล่นจะได้รับบทเป็นตัวของผู้เล่นเอง ซึ่งเกมก็จะมาพร้อมระบบการสร้างและปรับแต่งตัวละคร ตั้งแต่ในส่วนของการเลือกเพศ ทรงผม, สีผม, เครื่องแต่งกาย และอื่นๆ อีกมากมายที่ตาเราเห็น
เมือง Jericho ที่ไม่เป็นเส้นตรง
สำหรับเหตุผลที่ทางทีมงาน Deck 13 ได้เลือกที่จะให้เมือง Jericho มาเป็นฉากหลังของเกมในภาคนี้ ซึ่งเป็นฉากตัวเมืองเป็นส่วนมากแทนที่พื้นที่รกร้างในเกมภาคแรก มันก็เป็นเพราะเสียงตอบรับของแฟนๆ เกมรวมไปถึงคำวิจารณ์ต่างๆ ที่อยากที่จะให้ทีมงานเพิ่มสภาพแวดล้อมของเกมให้มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งในเมือง Jericho นั้นมันมาพร้อมกับภูมิทัศน์ของตัวเมืองเป็นหลัก ซึ่งสามารถทำให้ทางทีมพัฒนานำสภาพแวดล้อมที่หลากหลายใส่เข้าไปให้ผู้เล่นได้สัมผัสกันได้ง่ายขึ้นนั่นเอง และมันก็ยังมีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีมากขึ้นอีกด้วย
เมือง Jericho นั้นจะมาพร้อมการออกแบบฉากที่ดีมากยิ่งขึ้นใน Ther Surge 2 ซึ่งทางทีมงานได้มีการออกแบบฉากในเมืองให้มีความกว้างกว่าเกมในภาคแรกรวมไปถึงมีพื้นที่สภาพแวดล้อมที่เชื่อมต่อถึงกัน และยังมีพื้นที่ในแนวดิ่งที่จะมีระดับชั้นที่มากขึ้นตามธรรมชาติของพื้นที่ในตัวเมืองมากอีกด้วย ซึ่งทางทีมงานนั้นไม่ได้จัดให้เกมของพวกเขามีการออกแบบตามสไตล์ของเกม open world แต่มันก็จะมาพร้อมกับพื้นที่เปิดและเส้นทางแตกแขนงที่มากขึ้น ที่ทำให้ผู้เล่นได้รับอิสระในการกระบวนการเล่นจากจุดหนึ่งไปถึงอีกจุกหนึ่งที่มากกว่าเดิม
อีกสิ่งหนึ่งที่ทางทีมงาน Deck 13 นั้นได้เน้นเป็นอย่างมากในการสร้างเกมภาคนี้ก็คือการให้อิสระให้กับผู้เล่น กับการดำเนินเรื่องราวอย่างไม่เป็นเส้นตรงซึ่งผู้เล่นจะสามารถเลือกเล่นภารกิจใดๆ ในเกมก็ได้ที่เห็นว่าเข้าท่า ซึ่งใน The Surge 2 นี้ การมาของเมือง Jericho ก็จะทำให้ผู้เล่นได้รับอิสระที่มากขึ้นในการที่จะสามารถเลือกเส้นทางต่างๆ ของตัวเกมในการทำภารกิจ ซึ่งใจกลางของเมืองนั้นจะทำหน้าที่เป็น hub ที่ผู้เล่นสามารถเลือกออกสำรวจไปยังทิศทางใดๆ ก็ได้ตั้งแต่เริ่มต้นเกม และยังสามารถเลือกทำภารกิจและเควสเสริมได้โดยไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับอีกด้วย
ระบบการต่อสู้และศัตรูที่หลากหลาย
ปัญหาประดิษฐ์หรือ AI เองก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทางทีมงาน Deck 13 ได้ปรับปรุงขึ้นเป็นอย่างมาก และมันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่พวกเขาได้นำเอาเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเกมในภาคแรกมาแก้ไข ซึ่งศัตรูในภาคนี้จะมีความฉลาดที่มากขึ้นกว่าเดิม และมันก็ยังมีการสื่อสาร และมีการทำงานร่วมกันในการต่อสู้เพื่อท้าทายผู้เล่นให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ทั้งการใช้ความสามารถต่างไปในการช่วยเหลือกัน รวมไปถึงการใช้สภาพแวดล้อมที่เชี่ยวชาญให้เป็นข้อได้เปรียบ
ใน The Surge เกมจะมีอาวุธห้าชนิดให้ผู้เล่นได้เลือกใช้ แต่มันก็มีความแตกต่างที่ไม่มากนัก แต่ใน The Surge 2 มันจะมีอาวุธเพิ่มเข้าอีกห้าชนิดด้วยกัน และในแต่ละชนิดนั้นมันก็จะมาพร้อมกับความหลากหลายในวิธีการต่อสู้ที่มากกว่าเดิมให้ผู้เล่นได้ทดลองการเล่นในรูปแบบต่างๆ และในตัวของมันเองก็ยังมีรูปแบบการเล่นที่แยกย่อยออกไปอีกด้วยตัวอย่างเช่นอาวุธหนักอย่างขวาน ที่สามารถแยกออกเป็นขวานสองมือเพื่อการโจมตีที่รวดเร็วได้นั่นเอง
ในระหว่างการต่อสู้ combat drone จะเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ผู้เล่นจะได้รับ มันสามารถโจมตีศัตรูจากระยะไกลได้ในขณะที่ผู้เล่นกับฟาดฟันเหล่าศัตรูอยู่ในระยะประชิด ซึ่งมันยังมาพร้อมกับความสามารถในการสร้างความมึงงงชั่วขณะให้กับศัตรู หรือแม้กระทั่งเล็งยิงในส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งการใช้งานมันก็ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ในส่วนของการต่อสู้เท่านั้น แต่มันยังใช้เพื่อทำการลาดตระเวนในการสอดส่องเหล่าศัตรูที่ซ่อนตัว และยังสามารถปัดป้องการโจมตีระยะไกลจากศัตรูด้วยการติดตั้งปืนเลเซอร์และปืนซุ่มยิงให้กับมันได้อีกด้วย
อีกสิ่งหนึ่งที่ The Surge ได้รับคำติติงก็คือจำนวนของบอสที่ผู้เล่นได้เจอในเกมและความหลากหลายของศัตรู ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางทีมงาน Deck 13 ทราบถึงปัญหาเป็นอย่างดี และมันก็ได้ทำให้จำนวนของเหล่าศัตรูและบอสใน The Surge 2 นั้นมีจำนวนและความหลากหลากที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมมากๆ ตั้งแต่บอสตัวเล็กๆ ตามฉากที่ต้องใช้ลูกเล่นเล็กน้อยในการจัดการ ไปจนถึงมินิบอสในรูปแบบต่างๆ และบอสใหญ่ในเกม
หนึ่งในระบบชูโรงของ The Surge ก็คือระบบการเล็งโจมตีชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ (Limb Targeting System) ซึ่งมันก็ได้กลับมาอีกครั้งในเวอร์ชันที่ปรับปรุงมากยิ่งขึ้นใน The Surge 2 ซึ่งมันจะทำให้ผู้เล่นสามารถตัดเฉือนอวัยวะต่างๆ ของเหล่าศัตรูออกมาได้หากผู้เล่นโจมตีได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสิ้นส่วนของเหล่าศัตรูที่หลุดออกมานั้นจะมาพร้อมกับอุปกรณ์ อาวุธ หรือเครื่องแต่งกายที่แตกต่างกันให้กับผู้เล่นได้ใช้ ซึ่งมันหมายความว่าผู้เล่นจะต้องทำการโจมตีไปยังสิ้นส่วนต่างๆ และตัดมันออกมาให้ได้หากต้องการไอเทมบางอย่างที่จำเพาะเจาะจงนั่นเอง
หนึ่งในกลไกของเกม RPG ก็คือการฟาร์มข้าวของต่างๆ ในเกมเพื่อเพิ่มพูนความสามารถให้กับตัวละคร และ The Surge 2 ก็ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับกับระบบที่ว่านี้โดยเฉพาะ ซึ่งเกมจะไม่มีการจำกัดอัตราการเกิดของศัตรูให้ผู้เล่นสามารถเข่นฆ่าทันได้อย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อหาอุปกรณ์ต่างๆ ที่ดีขึ้น และนำมาอัปเกรดอุปกรณ์ต่างๆ นั่นเอง ซึ่งอุปกรณ์ต่างๆ และศัตรูในเกมนั้นก็จะมีการแบ่งลำดับชั้น ตัวอย่างเช่นผู้เล่นจะสามารถอัปเกรดอุปกรณ์ได้สุดเพียงแค่ขั้นที่สองเท่านั้นหากผู้เล่นเผชิญหน้าแต่กับเหล่าศัตรูในชั้นที่ 2 และการที่จะอัปเกรดอุปกรณ์ในลำดับชั้นที่สูงขึ้นไปนั้นมันก็จำเป็นที่ผู้เล่นจะต้องต่อสู้กับเหล่าศัตรูในลำดับชั้นที่สูงขึ้นไปนั่นเอง
ใน The Surge ภาคแรกนั้นระบบ implant คือส่วนสำคัญในเกมมากที่จะทำให้ผู้เล่นได้รับความสามารถที่มากขึ้น และใน The Surge 2 มันก็จะมาพร้อมกับระบบ implant ที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเกมในภาคแรกที่มาพร้อมกับความสามารถตั้งแต่การฟื้นฟูพลังชีวิตเมื่อผู้เล่นทำการฆ่าศัตรูได้ ไปจนถึงการช่วยเหลือการปัดป้องการโจมตี และตัวเลือกอื่นๆ อีกมากมายที่ผู้เล่นจะได้เจอ
Ther Surge 2 คืออีกหนึ่งความพยายามของทีมงาน Deck 13 ที่ต้องการต่อยอดแนวทางของพวกเขาเองกับแนวเกม Soulslike อีกครั้ง ที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและสิ่งที่ต่างๆ ที่พวกเขาต้องการแก้ไขจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเกมในภาคแรก ซึ่งเชื่อได้ว่ามันน่าจะทำให้เหล่าแฟนๆ เกมและผู้เล่นหน้าใหม่ที่ต้องการสัมผัสเกมแนว Soulslike พึงพอใจได้อย่างแน่นอน