สิ่งหนึ่งที่ทางทีมงาน The Coalition เก็บงำเป็นความลับมาโดยตลอดก็คือโหมดการเล่นเนื้อเรื่องในเกม Gears 5 ว่ามันจะมีความแตกต่างไปจากเกมในภาคก่อนอย่างไร ท่ามกลางความคาดหวังของผู้เล่นมากมายที่ยังคงคิดว่า Gears 5 ก็ยังคงมีเนื้อเรื่องเป็นเส้นตรงเช่น Gears of War ที่ผ่านมา แต่แท้จริงแล้วมันก็หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เพราะใน Gears 5 มันมาพร้อมกับความเปิดกว้างที่มากขึ้นในแบบที่พวกเขาไม่เคยได้ทำมาก่อน
“ในเกม Gears ภาคก่อนๆ ในตอนที่คุณเข้าในห้องสักแห่งหนึ่งพวก Locust (ศัตรูหลักของเกม) จะเห็นคุณและเริ่มยิงใส่คุณทันที” คุณ Rod Fegusson หัวหน้าของทีมงาน The Coalition และผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ Gears 5 อธิบาย “ทันทีที่คุณย่างก้าวเข้าไปในห้อง พวกมันก็จะรู้ได้ทันทีว่าคุณอยู่ที่นั่น ในทุกๆ เกม Gears ทุกภาค คุณก็จะเพียงแค่ทำได้แค่เปิดประตูและวิ่งเข้าที่กำบังเพื่อหลบห่ากระสุนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ในตอนนี้ ใน Gears เรามีแนวคิดที่จะให้ผู้เล่นเป็นผู้เริ่มการต่อสู้ได้ด้วยตัวเอง”
นั่นจึงเป็นที่มาให้ Bioshock Infinite ผลงานเกมของทีมงาน Irrational Games กลายเป็นแรงบันดาลใจของทีมงานในการสร้างเกม Gears ในภาคนี้ ซึ่งตัวของคุณ Rod Fergusson เองก็ได้ทำงานและมีส่วนร่วมกับทาง Epic Games มานานหลายปีในการสร้างเกม Gears of War ในทุกภาค และในปี 2012 เขาก็ได้ออกมาจาก Epic Games เพื่อไปร่วมงานกับทีมงาน Irrational Games ในฐานะรองประธานฝ่ายบริหารของทีมพัฒนา “ผมรู้สึกว่ามีโชคมากพอที่ได้ส่งเกม Bioshock ออกไปวางจำหน่าย และได้ร่วมงานกับ Ken (Ken Levine ผู้กำกับของเกม) และทีมงานของเขา ซึ่งทีมงานที่เคยอยู่ที่ Irrational นั้นมีความมหัศจรรย์มากๆ และมันก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผมต้องการไปทำงานให้กับโปรเจกต์นั้น ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ในการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่มากทีเดียว”
และที่แห่งนั้นคุณ Fergusson ก็ได้ทำงานร่วมกับ Ken Levine และทีมงานที่เหลือของเขาที่ Irrational ในการทำให้ Bioshock Infinite ได้ถือกำเนิดขึ้นมา และได้ออกวางจำหน่ายหลังจากที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายในระหว่างกระบวนการสร้าง คุณ Fugusson ออกจากสตูดิโอ Irrational หนึ่งสัปดาห์หลังจากเกมวางจำหน่าย และภารกิจของเขาก็ได้เสร็จสิ้นแล้ว แต่ในช่วงเวลา 8 เดือนที่เขาได้ไปร่วมงานกับทาง Irrational นั้นได้เป็นแรงบันดาลใจที่แรงกล้าให้กับคุณ Fergusson มากๆ ในการนำเอามุมมองที่สดใหม่มาใส่เข้าไปใน Gears 5 ที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงกายวิภาคของการต่อสู้ในเกม และวิธีการที่ศัตรูจะตอบสนองกับการคงอยู่ของผู้เล่นอีกด้วย
“แนวคิดนี้มันเป็นสิ่งที่ Ken ได้ยืนกรานเป็นอย่างมากในการให้ผู้เล่นเป็นผู้เริ่มการต่อสู้ และให้ตัวเลือกกับผู้เล่นว่าพวกเขาจะเข้าทำอย่างไร และมันก็คือสิ่งที่เราได้นำมาใช้ใน Gears 5 นั่นเอง” คุณ Fergusson ยังได้บอกอีกด้วยว่า “ในบางสถานการณ์ และในการต่อสู้บางครั้ง คุณจะได้เข้าไปในเลเวลและได้เห็นฝูงศัตรูที่ครอบครองพื้นที่อยู่ แต่พวกมันจะไม่ทันได้สังเกตุคุณในทันที”
เหตุผลที่ทางทีมงาน The Coalition ได้เลือกที่จะมีการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบของการต่อสู้ใน Gears 5 ก็คือพวกเขาต้องการให้มันได้ความรู้สึกของการเป็นสื่อกลางในเกม จังหวะและแนวทางของระบบการต่อสู้ ที่ยังคงเป็นเหมือนเช่นที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของน้ำหนักและเป้าประสงค์ สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือความอิสระที่ทำให้ผู้เล่นสามารถมีแนวทางของตัวเองได้ หรืออย่างน้อยก็สามารถก่อรูปร่างของการปะทะที่เกิดขึ้นรอบๆ ด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ หรือไม่ก็อาจทิ้งช่องว่างระยะห่างให้ผู้เล่นมีความสบายใจในการเล่นที่มากขึ้น
“มันหมายถึงคุณจะได้เห็นสภาพแวดล้อม คุณจะได้เห็นภัยอันตราย และผู้ก็จะได้เห็นโอกาส เรามีสิ่งใหม่ในตัวเขาเจ้า JACK ด้วย” คุณ Fergusson อธิบายต่อ ซึ่ง JACK นั้นก็คือหุ่นยนต์ที่คอยช่วยเหลือผู้เล่นที่ในภาคนี้เขาก็จะมีความสามารถในการสนับสนุนที่มากขึ้นนั่นเอง “คุณจะมีความรู้สึกประมาณว่า โอเค เราจะแก้ปัญหาได้ยังไงนะ? เราจะต้องล่องหนหรือเปล่า? เราจะต้องบุกตะลุยทะลวงฟันเข้าไป หรือเราจะให้ JACK ไปเก็บข้าวของและอาวุธมาให้เราก่อนที่จะเริ่ม”
“มันเป็นเพียงแค่การสร้างตัวเลือกที่มากขึ้น และได้เปลี่ยนแปลงเกมการเล่นออกไป ดังนั้นคุณจึงสามารถเล่นเกมได้ด้วยแนวทางการเล่นที่คุณชอบ ผมชอบที่จะยืนอยู่แถวหลังและคอยซุ่มยิง แต่บางคนก็อาจจะเป็นพวกชอบแนวหน้าที่ชอบบุกเข้าไปทันที ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับวิธีการที่คุณต้องการ”
โดย Gears 5 นั้นจะออกวางจำหน่ายทั้งบน Xbox One และ PC โดยตัวเกมนั้นจะเปิดให้ผู้ที่สั่งจองตัวเกมในรูปแบบ deluxe edition เข้าเล่นในรูปแบบ early acces ได้ในวันที่ 6 กันยายนนี้ ก่อนที่จะเปิดให้ผู้เล่นที่ซื้อเกมในเวอร์ชันธรรมดาเข้าเล่นได้ในวันที่ 10 กันยายน
