Ubisoft เปิดตัวเกมในแฟรนไชส์ Ghost Recon ภาคใหม่ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว กับภาคที่จะใช้ชื่อว่า Ghost Recon Breakpoint ที่ถือได้ว่าเป็นภาคต่อของ Ghost Recon Wildlands ที่ออกวางจำหน่ายไปเมื่อปี 2017 ซึ่งแน่นอนว่าในการกลับมาครั้งนี้ทางทีมพัฒนาก็ได้มาพร้อมหลายสิ่งหลายอย่างที่ได้รับการปรับปรุงไปจากเกมในภาคก่อนหน้า (ที่ได้รับเนื้อหาเสริมมาแล้วถึง 19 ตัว) เป็นอย่างมาก และยังมาพร้อมกับทิศทางใหม่ๆ ที่เราไม่เคยได้เห็นมาก่อนในเกมซีรีส์นี้ ซึ่งล้วนแล้วแต่มาจากเสียงตอบรับ และเสียงสนับสนุนของแฟนเกม รวมไปถึงประสบการณ์ในการทำงานกับ Ghost Recon Wildlands มาร่วม 2 ปีอีกด้วย
คุณ Matthew Tomkinson ผู้กำกับฝ่าย User Experience & Realization ของเกม Ghost Recon Breakpoint ได้กล่าวไว้ว่า พวกเขาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายนับตั้งแต่ที่เกม Ghost Recon Wildlands ออกวางจำหน่าย ซึ่งในช่วงเวลานั้นเขาได้อธิบายว่า Ubisoft เหมือนกำลังจมอยู่ในความมืดตั้งแต่เริ่มต้น เพราะมันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของซีรีส์เป็นอย่างมาก แต่การมาของ Ghost Recon Breakpoint มันก็เหมือนเป็นเกมที่มานำแสงสว่างมาให้กับพวกเขาอีกครั้ง เพราะพวกเขามีองค์ความรู้ในสิ่งที่ได้ทำมาแล้ว ว่าอะไรที่ทำแล้วมันใช่ และอะไรที่ทำแล้วมันไม่ใช่ และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คืออะไรที่จำเป็นสำหรับเกม Ghost Recon ที่เป็นเกม Open World อย่างเต็มตัว
การเล่าเรื่องใน Ghost Recon Breakpoint
ใน Ghost Recon Breakpoint เรื่องราวต่างๆ จะเป็นการผลักดันให้เหล่าตัวละครถึงขีดจำกัดของตัวเอง โดยเรื่องราวทั้งหมดในเกมนั้นจะมีศูนย์กลางอยู่ที่ตัวละครที่ชื่อ Cold D. Walker ซึ่งเป็นตัวละครที่ได้ปรากฏตัวในเนื้อหาใหม่ที่ได้มีการอัปเดตเข้ามาเพิ่มเติมของ Ghost Recon Wildlands โดยเขาจะมาเป็นวายร้ายหลักของเกมในภาคนี้ และยังเป็นหัวหน้าทีมหน่วยรบพิเศษที่จะมาตามล่าเหล่าสมาชิกทีม Ghost ซึ่งในภาคนี้ฝ่ายเราจะไม่มีทั้งข้อมูลในการสนับสนุน และมีทรัพยากรให้ใช้อย่างจำกัด และมันก็ทำให้เราต้องผลักดันทุกขีดความสามารถต่างๆ ให้สุดได้เท่าที่มี
AI และ Drone นั้นจะมีบทบาทสำคัญอย่างมากกับเรื่องราวใน Ghost Recon Breakpoint มันเป็นแนวคิดของคุณ Eric Couzian ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของเกมที่ได้เล็งเห็นถึงการพัฒนาของ Drone และ AI ที่วิวัฒนาการไปอย่างรวดเร็วในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งมันก็ได้นำไปสู่คำถามที่เขาได้กล่าวไว้ว่า “หรือแท้จริงแล้ว พวกเรากำลังเรียกปีศาจกันอยู่หรือเปล่า?” และคำถามที่ว่านี้ มันก็ได้ทำให้ AI และ Drone กลายเป็นส่วนสำคัญของ Ghost Recon Breakpoint นั่นเอง เพราะพวกมันล้วนแล้วแต่เป็นศัตรูของหน่วย Ghost ที่พร้อมจะออกล่าสังหารพวกเขาตลอดเวลา และยังมาพร้อมกับศัตรูตัวฉกาจยิ่งกว่าที่พวกเขาได้เคยเจอ
The Wolves คือศัตรูตัวฉกาจที่ว่า พวกเขาคือกองกำลังหน่วยรบพิเศษที่แยกตัวออกมาเป็นเอกเทศภายใต้การนำของ Cold D. Walker และแน่นอนว่า ด้วยการที่การปฏิบัติการในครั้งนี้ของหน่วย Ghost พวกเขาแทบที่จะไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ มันก็ทำให้ The Wolves กลายเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเจอมา และพวกเขาก็ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีและกลยุทธ์ต่างๆ ที่พร้อมจะจัดการกับหน่วย Ghost ได้อย่างง่ายดาย
ในภาคนี้ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Nomad หัวหน้าหน่วย Ghost ซึ่งใน Ghost Recon Breakpoint นั้นพวกเขาก็จะทำการลงลึกไปอย่างเนื้อเรื่องของเหล่าตัวละครต่างๆ ให้มากขึ้นยิ่งกว่าที่ผ่านมา โดยในเกมนั้นมันจะมีฉากย้อนความหลังให้เราได้เห็นถึงความสัมพันธ์ของ Nomad และ Cold D. Walker ซึ่งทั้งคู่เคยได้ทำงานร่วมกันมาก่อนในฐานะของเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษ และเราก็จะได้เห็นถึงความละโมบของ Walker ที่ต้องการจะถอนตัวออกมาจากโครงการของรัฐบาลเพื่อมาจัดตั้งกองกำลังทหารรับจ้างของเขาเองซึ่งได้เงินดีกว่า โดยตัวของ Walker เองนั้นเขาเป็นหนึ่งในตำนานของหน่วย Ghost ในฐานะ “เจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษที่อึดที่สุด” ในประวัติศาสตร์ตั้งแต่มีการก่อตั้งหน่วยนี้มาอีกด้วย ซึ่งในตลอดเกมการเล่นนั้นผู้เล่นจะได้เรียนรู้เรื่องราวของ Walker มากขึ้นเรื่อยๆ จากการเผชิญหน้ากับเขา ซึ่งจะทำให้เราได้รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เขาเลือกที่จะละทิ้งรัฐบาล และเพราะเหตุใดเขาถึงต้องหมายหัว Nomad เพื่อทำการกำจัดทิ้งให้ได้
เรื่องราวหลักๆ ของ Ghost Recon Breakpoint นั้นจะเล่าเรื่องโดยมีใจกลางอยู่ที่เกาะ Auroa มันเป็นหมู่เกาะสมมติที่สร้างขึ้นมาโดยอิงกับสภาพภูมิทัศน์ของหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก และยังมีเกาะอีกมากมายในเกมที่จะมาพร้อมกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ป่าดงดิบ หิมะที่ปกคลุม ไปจนถึงพื้นที่ในเขตปากปล่องภูเขาไฟอันร้อนระอุ
นอกจากนี้สิ่งที่จะทำให้ Ghost Recon Breakpoint มีความแตกต่างไปจากภาคที่ผ่านมาก็คือมันจะมาพร้อมกับฉาก Cutscene ที่มีความยาวเป็นชั่วโมงเพื่อให้ผู้เล่นเข้าถึงเนื้อหาของโลกในเกมได้ลึกยิ่งกว่าที่เคย ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทางทีมงานนั้นได้ทำการทดลองมาก่อนแล้วในเนื้อหาส่วนเสริมต่างๆ ของ Ghost Recon Wildlands นั่นเอง และใน Ghost Recon Breakpoint นั้นมันก็จะมาพร้อมกับระบบตัวเลือกการสนทนา (dialog choice) อีกด้วย ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถเลือกการกระทำหลักๆ ของตัวละครได้ตลอดทั้งเกม และมันก็จะเป็นการนำไปสู่เรื่องราวที่จะมีการแตกแยกกิ่งก้านสาขากันออกไป ซึ่งแน่นอนว่าในภาคนี้นั้นผู้เล่นก็จะยังคงเลือกปรับแต่งตัวละครของตัวเองได้อย่างอิสระทั้งเพศ หน้าตา และอื่นๆ อีกมากมาย
ฟีเจอร์ใหม่ของ Ghost Recon Breakpoint
Ghost Recon Breakpoint จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Bivouac system หรือระบบการสร้างที่พักพิงชั่วคราว โดยผู้เล่นนั้นจะสามารถตั้งแคมป์ในจุดปลอดภัยต่างๆ ที่อยู่ในเกมได้เพื่อให้ทีมได้ทำการเตรียมพร้อมและพักผ่อนในระหว่างการปฏิบัติภารกิจ ซึ่งพื้นที่ปลอดภัยนี้จะมีการกระจายออกไปตามสถานที่ต่างๆ บนเกาะ ซึ่งผู้เล่นนั้นจะสามารถเปลี่ยนคลาสได้จากในแคมป์ และเช็กดูค่าสถานะต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวผู้เล่นที่อาจได้รับความผิดปกติในระหว่างเดินทางได้อีกด้วย ซึ่งที่แคมป์ผู้เล่นก็จะสามารถทำการปฐมพยาบาลได้ กินอาหารได้ และยังใช้เป็นที่ในการแลกเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ ระหว่างผู้เล่นอีกด้วย นอกจากนี้การตั้งแคมป์นั้นผู้เล่นก็ยังสามารถเลือกเวลาได้อย่างอิสระ ซึ่งระบบสภาพอากาศแบบพลวัตนั้นก็จะมีบทบาทสำคัญอย่างมาก โดยที่ผู้เล่นจะสังเกตได้ว่าอากาศในเกมจะเป็นอย่างไรต่อไป มันจะฝนตกหรือเต็มไปด้วยหมอกที่บดบังทัศนวิสัย มันจะเป็นสิ่งที่สังเกตได้ ซึ่งมันจะเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการตัดสินใจขอผู้เล่นว่าจะเลือกเล่นภารกิจในสไตล์ไหนนั่นเอง
Ghost Recon Breakpoint ยังมาพร้อมระบบที่ใกล้เคียงกับเกมในเครือเดียวกันอย่าง The Division ซึ่งทำให้มันมาพร้อมกับระบบ Loot ที่อาจมีความคล้ายคลึงกับเกมในแนว Looter Shooter ซึ่งในเกมการเล่นนั้นผู้เล่นจะสามารถพบเจอกล่องไอเทมต่างๆ ในเกม โดยภายในนั้นมันจะประกอบไปด้วยชิ้นส่วนอัปเกรดอาวุธต่างๆ และยังมีไอเทม Loot ที่ได้มาจากตัวศัตรูที่ตายแล้วอีกด้วย
นอกจากนี้การเล่นแบบลอบเร้นใน Ghost Recon Breakpoint จะมีรายละเอียดและมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ใน Ghost Recon Wildlands บ่อยครั้งที่การลอบเร้นของผู้เล่นมักจบลงด้วยการที่ศัตรูมาพบเจอศพที่เราฆ่าไว้โดยบังเอิญ ซึ่ง Breakpoint มันก็จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ทำให้เราสามารถแบกร่างอันไร้วิญญาณของศัตรูได้ และยังรวมไปถึงเพื่อนร่วมทีมของเราที่พลาดท่าโดนยิงจนร่วง เราก็สามารถที่จะแบกเขามาเพื่อมาเข้าที่กำบังได้เช่นกัน และเกมยังมาพร้อมกับระบบการอำนวยความสะดวกอย่างการใช้เครื่องตัดรั้วเพื่อลอบเข้าไปยังพื้นที่ต่างๆ โดยที่ไม่ต้องหาทางเดินอ้อมให้เสียเวลาและเสี่ยงต่อการถูกพบเห็นอีกด้วย
อีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ระบบการลอบเร้นในเกมมีความลึกมากขึ้นกว่าเดิมก็คือการพรางตัวโดยการหมอบ (prone camo) ซึ่งเมื่อผู้เล่นทำการหมอบ ผู้เล่นจะสามารถนำเอาดินโคลนหรือสิ่งของอื่นๆ มาทำการพรางตัวได้เพื่อหลบซ่อนให้พ้นสายตาของศัตรูโดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องย่องแอบตามพุ่มไม้เพียงอย่างเดียว ก่อนที่จะเข้าไปเชือดพวกมันด้วยแอนิเมชันการลอบสังหารแบบใหม่ที่ดุเดือดยิ่งขึ้นกว่าในภาคที่แล้วเป็นอย่างมาก ซึ่งระบบการพรางตัวนี้ทางทีมงานก็ยอมรับว่าพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่อง Predator นั่นเอง ซึ่งมันยังเป็นหนึ่งในเนื้อหาเสริมที่มีการเพิ่มเติมเข้ามาเป็นอีเวนต์พิเศษใน Ghost Recon Wildlands อีกด้วย
Sync Shot หนึ่งในเอกลักษณ์ของเกมแน่นอนว่ามันก็จะกลับมาในภาคนี้ กับระบบที่ทำให้ผู้เล่นทั้ง 4 ต้องประสานงานกันในการสังหารศัตรูพร้อมกัน และใน Ghost Recon Breakpoint การเล่นแบบ Solo นั้นผู้เล่นก็จะสามารถเล่นได้ด้วยตัวคนเดียว โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องมี AI ของเพื่อนร่วมทีมติดตามตัว ซึ่งการทำ Sync Shot ด้วยการเล่นคนเดียวก็จะทำได้โดยการใช้ Drone แทนที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ นั่นเอง (ทีมงานได้มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว หลังจากที่มีเสียงเรียกร้องจากเหล่าแฟนเกมให้นำระบบเพื่อนร่วมทีมกลับมา อ้างอิงจาก: Ghost Recon Breakpoint brings back AI teammates )
ศัตรูใน Ghost Recon Breakpoint ยังมาพร้อมกับความหลากหลายที่มากกว่า Wildlands เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะศัตรูที่เป็นพวกหน่วยรบพิเศษก็จะมีชนิดที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีจุดอ่อนที่แตกต่างกันออกไป และยังไม่รวมไปถึงศัตรูที่เป็น Drone ที่มี AI ควบคุมอีกหลากหลายชนิดที่ผู้เล่นจะต้องรับมือ ในทางกลับกัน Ghost Recon Breakpoint ก็จะมาพร้อมกับระบบคลาสเป็นครั้งแรกของซีรีส์ ซึ่งผู้เล่นสามารถทำการปรับเปลี่ยนคลาสของผู้เล่นได้อย่างอิสระในแคมป์ ซึ่งในตอนที่เกมออกวางจำหน่ายมันก็จะมาพร้อมกับคลาสให้เลือกเล่นถึง 4 คลาสที่จะมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งเท่าที่เราได้เห็นในตอนนี้ก็จะมีคลาสสไนเปอร์อย่าง Sharpshooter และคลาสสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบเล่นในเล่นในสไตล์ลอบเร้นอย่าง Panther ที่ทำให้ศัตรูพบเห็นตัวได้ยากขึ้น และยังมาพร้อมกับระเบิดควันในการใช้พรางตัวยามฉุกเฉินอีกด้วย
อนาคตของ Ghost Recon Breakpoint
เกาะแห่งใหม่จะมีการเพิ่มเติมเข้ามาใน Ghost Recon Breakpoint อย่างแน่นอน จากการยืนยันของคุณ Tomkinson ซึ่งมันเป็นแผนการที่พวกเขาได้วางเอาไว้แล้วในการสนับสนุนเนื้อหาในช่วง Endgame ของ Ghost Recon Breakpoint ซึ่งแน่นอนว่ามันจะมาพร้อมกับสภาพภูมิทัศน์แบบใหม่ และพื้นที่ใหม่ๆ ให้สำรวจ ซึ่งพวกเขาได้สัญญาว่ามันจะมีเนื้อหาออกมาอีกมากมายที่จะตามมาในภายหลังอย่างแน่นอน ซึ่งเกมจะมีอีเวนต์การครอสโอเวอร์เหมือนกับ Ghost Recon Wildlands แน่ๆ ที่เอา Predator เข้ามาใส่ไว้ในเกม แต่ในภาคนี้มันจะเป็นการครอสโอเวอร์กับอะไรนั้น ทางทีมงานก็ขออุบเอาไว้ก่อนในตอนนี้
โหมด PvP ใน Ghost Recon Breakpoint จะมีการปล่อยออกมาให้เล่นในทันทีที่เกมออกวางจำหน่าย ซึ่งในโหมดนี้จะมีการแชร์ progression ต่างๆ ทั้งสกิล, อาวุธ และอุปกรณ์ของผู้เล่นจากโหมดการเล่นเนื้อเรื่องหลักมาด้วย แต่มันจะเป็นการแชร์อย่างไร้รอยต่อซึ่งทางคุณ Nouredine Abboud ผู้อำนวยการผลิตของเกมได้ยืนยันว่า “ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม มันยังเป็นเกมเดิมอย่างแน่นอน” แต่มันจะมีการปรับสมดุลของตัวเกมอย่างไรนั้นเราก็คงต้องดูกันต่อไป และนอกจากนี้หลังจากออกวางจำหน่ายเกมยังมาพร้อมกับภารกิจ raid อีกด้วย ซึ่งจะเป็นเนื้อหาส่วนที่ยากที่สุดของเกมและแน่นอนว่ามันจะให้รางวัลที่คุ้มค่าแก่ผู้เล่นที่พิชิตมันได้อย่างแน่นอน
Ghost Recon Breakpoint มีกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ทั้งบน PC, PS4 และ Xbox One
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
Everything We Know About Ghost Recon: Breakpoint
New Ghost Recon: Breakpoint Island Already Planned
Ghost Recon: Breakpoint Interview: “It’s Almost Infinite”