Activision Blizzard บริษัทผู้ผลิตเกมรายใหญ่สั่งปลดพนักงานกว่า 8 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทซึ่งคิดเป็นจำนวนกว่า 800 คนอย่างเป็นทางการแล้วจากพนักงานภายในบริษัททั้งหมด 9,600 คน ระหว่างการแถลงผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2014 ให้กับเหล่านักลงทุนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยพนักงานกว่า 800 คนนี้จะเป็นส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเกมแต่อย่างใด และทาง Activision Blizzard ก็เตรียมที่จะจ้างพนักงานใหม่ในส่วนของการพัฒนาเกมมากยิ่งขึ้นแล้ว เพื่อมาเน้นหนักไปที่แฟรนไชส์หลักอย่าง Call of Duty และ Diablo
โดยในปีงบประมาณที่ผ่านมาทาง Activision Blizzard สามารถทำกำไรได้ถึง 7.5 พันล้านเหรียญโดยคิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 7.1 เปอร์เซ็นต์แบบปีต่อปี แต่อย่างไรก็ดีมันยังไม่เป็นที่พอใจกับทางบริษัทนัก เนื่องจากตัวเลขประมาณการในปี 2019 นั้นมันมีตัวเลขผลกำไรที่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 6 พันล้านเหรียญ เนื่องด้วยการแยกทางกับทาง Bungie พร้อมทั้งเสียสิทธิ์ในการครอบครองแฟรนไชส์ Destiny ไป และยังรวมไปถึงผู้เล่นของเกมอื่นๆ ที่เปิดให้บริการในตอนนี้ที่ลดน้อยลงอย่างมากจากเกมที่เป็นหัวหอกหลักไม่ว่าจะทั้ง Overwatch หรือ Hearthstone เอง
ซึ่งในปีนี้ทาง Activision Blizzard จะมีการจ้างพนักงานเพิ่มในส่วนของแผนกการพัฒนาเกมถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เพื่อมาเน้นหนักในการพัฒนาเกมในแฟรนไชส์ที่เป็นจุดแข็งของทางค่ายอย่าง Call of Duty และ Diablo อย่างไรก็ดีในส่วนของ Blizzard Entertainment เองก็จะไม่มีการออกวางจำหน่ายเกมใหญ่ๆ ในปีนี้อีกด้วย เนื่องจากในปีที่ผ่านมาทาง Blizzard Entertainment ทำผลกำไรได้ต่ำกว่าที่มีการประมาณการเอาไว้ และมีเพียงส่วนเสริม World of Warcraft: Battle for Azeroth ที่ออกวางจำหน่าย มันจึงทำให้พวกเขาไม่มีแผนสำหรับการออกวางจำหน่ายเกมใหญ่ๆ ในปีนี้ และเพื่อที่จะให้ทาง Blizzard จัดสรรงบประมาณของบริษัทให้มีความมั่นคงยิ่งกว่าเดิม ก็น่าจะเป็นเกมอย่าง Diablo Immortal และ Warcraft 3 Reforge ที่ออกวางจำหน่ายในปีนี้ ที่จะเป็นตัวแปรที่ทำให้สถานะทางการเงินของ Blizzard เป็นไปตามที่ทาง Activision ต้องการ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
Activision Blizzard lays off hundreds of employees
Activision Blizzard cuts hundreds of jobs despite ‘record revenue’ year