สิ่งที่น่าเป็นกังวลในวงการนักกีฬา Esports ทุกวันนี้คือการที่เรามักได้เห็นความพยายามและทุ่มเทของบรรดานักกีฬาระดับแนวหน้า ที่ใช้เวลาในการฝึกซ้อมต่อสัปดาห์ถึง 80 ชั่วโมง และการใช้เวลาเป็นอย่างมากในการฝึกซ้อมการเล่นวิดีโอเกมโดยไม่ได้หยุดหย่อนนั้น ก็ได้นำพาไปสู่ปัญหาทางด้านร่างกายและสุขภาพจิต ที่อาจทำให้ต้องพบกับจุดจบของอาชีพเพียงในช่วงวัย 20-30 ปี
โดยการฝึกซ้อมโดยไม่หยุดหย่อนและเป็นเวลานานเช่นนี้ เป็นที่รู้จักกันในชื่อของรูปแบบการฝึกซ้อมที่เรียกกว่า “The Grind” อ้างอิงจาก “Esports: The Price of the Grind” รายการสารคดีเรื่องใหม่ของทางช่อง CBSN ที่ต้องการที่จะค้นหาสาเหตุว่าทำไมนักกีฬา Esports อาชีพหลายคนถึงมักอำลาวงการในช่วงอายุเพียง 20 กลางๆ เท่านั้น
Indy Halpern เป็นหนึ่งในนักกีฬา Esports ชั้นแนวหน้าได้กล่าวไว้ในสารคดี Esports: The Price of the Grind ว่า บางครั้งเขาต้องฝึกซ้อมเป็นเวลา 8 ชั่วโมงต่อวัน และมันก็เป็นตัวการที่ทำให้เขาเกิดอาการปวดแผ่นหลังในส่วนล่างและบริเวณข้อมือ ซึ่งด้วยการเป็นนักกีฬา Esports นั้นหากมีอาการบาดเจ็บเช่นนี้อย่างรุนแรงก็อาจทำให้พวกเขาต้องเลิกอาชีพการเล่นเกมแทบจะในทัน
นอกจากนี้ Halpern ยังได้พูดถึงความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพจิตอีกด้วยว่า “คุณจะต้องแบกรับแรงกดดันจากศักยภาพของคุณตลอดเวลา” ซึ่งมันทำให้ทางคุณ Doug Gardner ที่ปรึกษาทางด้านจิตวิทยาการกีฬา และผู้อำนวยการด้านศักยภาพของผู้เล่นของทีม Esports ที่ชื่อ Immortals หวนนึกไปถึงตอนที่เขาได้เห็นเหล่านักกีฬาที่ไร้เรี่ยวแรงหลังจากผ่านเล่นเกมกันอย่างดุเดือด
แต่การรีไทร์จากวงการของนักเล่นเกมก่อนวัยอันควรก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในปี 2014 ทางเว็บไซต์ Polygon ได้เคยมีรายงานออกมาว่า โดยปกติแล้วนักกีฬา Esports ส่วนใหญ่มักอำลาวงการด้วยวัยเพียง 20 ปีกลางๆ เท่านั้น เพราะปัจจัยหลักของการเป็นนักกีฬา Esports ก็คือทักษะในการเคลื่อนไหวและปฏิกิริยาในการตอบสนองในช่วงวัยเด็ก ที่มีส่วนช่วยอย่างมากในการเป็นนักกีฬาในระดับแนวหน้า
แต่ด้วยการเติบโตของโซเชียลมีเดียและวงการ Esports ก็กลับกลายไปเป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้สภาพความเป็นอยู่ของนักกีฬา Esports อยู่ในสถานะย่ำแย่ เพราะปัญหาทางสุขภาพจิตนั่นเอง ที่ทำให้นักกีฬาบางส่วนต้องอำลาวงการก่อนวัยอันควร ไม่เพียงแต่เพราะจำนวนเงินเดิมพันในการแข่งขันที่สูงขึ้นในทุกๆ วันเท่านั้นที่พวกเขาต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยง แต่มันยังเป็นเพราะจำนวนผู้ชมที่มากขึ้นทุกๆ วันด้วย ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ก็ได้มีการประมาณการออกมาว่ามันมีจำนวนผู้ชมกว่า 400 ล้านคนที่โลกที่กำลังรับชมกีฬา Esports ที่นิยมรับชมการแข่งขันประเภทนี้เป็นช่องทางการรับชมหลัก
Justin “Plup” McGrath เป็นหนึ่งในนักกีฬา Esports ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง ESPN เอาไว้ว่าในทุกๆ ครั้งที่เขาเดินเกมผิดมันจะเต็มไปด้วย “การวิเคราะห์ที่เป็นมลพิษบนเว็บไซต์ Reddit, Twitter และกระดานสนทนาออนไลน์” ซึ่งมันเป็นการยากสำหรับนักเล่นเกมที่เข้าแข่งขันที่จะทำเป็นไม่สนใจอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่กับโลกออนไลน์เพื่อหลีกเลี่ยงแรงกระแทกเหล่านั้น เพราะมันคือสถานที่ที่ให้ทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวในฐานะผู้เล่นอาชีพ ที่จะต้องได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และมันก็ยังเป็นทางเดียวที่พวกเขาจะได้ติดต่อสื่อสารกับโลกนอกจากการทำงานอีกด้วย
และมันก็เป็นการยากสำหรับนักกีฬา Esports ในการที่ใช้ชีวิตตามปกติ เพราะเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาขาดการฝึกซ้อม มันจะส่งผลต่อศักยภาพโดยรวมของทีมทันที หนึ่งในสมาชิกของทีม Dallas Fuel หนึ่งในทีมที่ได้เข้าแข่งขันในรายการ Overwatch League ไม่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านในช่วงระหว่างกลางฤดูกาล นั่นจึงทำให้เจ้าของทีมจึงต้องมีการค้นหาผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการกีฬามาช่วยเหลือในส่วนนี้ เพื่อให้ผู้เล่นยังคงสามารถฝึกซ้อมต่อไปกับทีมได้โดยไม่พบปัญหาสุขภาพทางจิต และทาง FemmeFerocity ทีมแข่งขันเกม Heroes of the Storm เองก็เช่นกันที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญที่เป็นแก่นหลักและ “ข้อได้เปรียบในการแข่งขัน” ของการมีสุขภาพจิตที่ดี
แต่ถึงแม้การฝึกซ้อมอย่างหนักที่ทำให้นักกีฬา Esports ต้องอำลาวงการก่อนวัยอันควรจะเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง แต่สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องไม่ลืมก็คือต่อให้นักกีฬาระดับแนวหน้าจะล้มหายไปจากไปอย่างรวดเร็ว มันก็มีบรรดาผู้เล่นอีกมากมายทั่วโลกที่กำลังรอคอยมาแทนที่เสมอ และยังจะมากขึ้นในทุกๆ วัน จากการสนับสนุนของทั้งภาครัฐและเอกชนที่เริ่มเห็นจำนวนเงินอันมหาศาล อันเนื่องด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจ Esports ที่ได้มีการคาดการณ์กันว่าในปี 2020 ธุรกิจ Esports นั้นจะสามารถทำกำไรได้มากกว่า 1.5 พันล้านเหรียญ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
Esports players are burning out in their 20s
Mental health issues remain pervasive problem in esports scene
Esports players burn out young as the grind takes mental, physical toll