วันที่ 21 กันยายน ปี 2018 Telltale Games ได้ทำการประกาศปลดพนักงานเหลือเพียง 25 คนอย่างกะทันหัน เพื่อเตรียมตัวสู่การปิดค่ายเนื่องด้วยสาเหตุล้มละลายอย่างเป็นทางการ โดย 25 คนที่เหลือนี้มีหน้าที่ในการทำงานสำคัญที่เหลือจนเสร็จ เช่นการพอร์ต Minecraft: Story Mode ลง Netflix ความเป็นความตายของโปรเจกต์ที่ปล่อยไปแล้วอย่าง The Walking Dead Final Season ยังไม่มีใครทราบแน่ชัด นอกจากคำพูดของ Melissa Hutchison นักพากย์ผู้รับบท Clementine ที่ออกมาบอกว่าจะมีการปล่อยตอนที่ 2 ออกมาในวันที่ 25 กันยายนนี้แล้วจะโดนตัดจบ ส่วนโปรเจกต์ที่ยังไม่ได้มีการวางขายอย่าง Stranger Things, The Wolf Among Us Season 2 และ Game of Thrones Season 2 นั้นถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการ
อัปเดตล่าสุด: เมื่อวันที่ 25 กันยายน เวลา 6.39 ทางทวิตเตอร์ทางการของ Telltale Games ได้ประกาศว่า “ตอนนี้มีพันธมิตรหลายเจ้าเข้ามาติดต่อเพื่อช่วยให้การพัฒนา The Walking Dead Final Season นั้นเสร็จสมบูรณ์ ในระหว่างที่ทางทีมงานของเรากำลังทำการเจรจาตกลงเรื่องการพัฒนาตอนที่ 3 และ 4 กับพันธมิตรดังกล่าว ตอนที่ 2 ก็จะปล่อยให้เล่นตามเวลาเดิมตามปกติ เราหวังว่าจะมีคำตอบมาให้ทุกคนในเร็ววันนี้”
ว่าแต่อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เหตุการณ์นี้เป็นจุดจบของ Telltale Games? การที่เราจะรู้ถึงจุดนั้นได้ เราก็คงต้องมาย้อนถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้พวกเขามีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้กันก่อน
Season Premiere of Telltale Games
Telltale Games เป็นค่ายเกมเล็ก ๆ ที่ทำเกมลิขสิทธิ์มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนอย่าง Wallace and Gromit, Homestar Runner, Sam and Max นอกจากนั้นพวกเขาก็ได้รับทำเกมรีเมกของ Tales of Monkey Island ด้วย ซึ่งตรงนี้เป็นจุดเด่นของ Telltale ในสมัยก่อนที่มีภาพน่ารัก เนื้อเรื่องที่สนุกและตลก แต่ก็มีมุมที่โหดบ้างเล็กน้อยกับเกมของซีรีส์สืบสวนอย่าง Bones, Law and Order และ CSI หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้มีการทำเกมไพ่ Poker Night at the Inventory ที่เป็นเกมรวมตัวละครจากเกมที่พวกเขาเคยทำมา และมีตัวละครจากเกม Team Fortress 2 ด้วย แต่หลังจากเกมนั้น พวกเขาก็เริ่มหลีกมาทำเกมที่เป็นลิขสิทธิ์ของภาพยนตร์เช่น Back to the Future ที่ได้รับกระแสตอบรับดีมากกับ Jurassic Park ที่กระแสไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จนกระทั่งมีเกมที่มาจากซีรีส์ชื่อดังเรื่องหนึ่งที่พลิกชะตาของ Telltale Games ไปตลอดกาล
The Walking Dead
ครั้งแรกสุดที่ผมได้รู้จักและตกหลุมรักค่ายเกมเล็ก ๆ ที่ดื้อทำเกมที่หลายคนมองว่าตายไปแล้วอย่าง Telltale Games ก็เป็นในช่วงก่อนที่เกม The Walking Dead จะวางขาย (ช่วงต้นปี 2012) ตอนนั้นผมเองเป็นเริ่มแฟนคลับซีรีส์ The Walking Dead ที่ฉายทางช่อง AMC โดยผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเคยเป็นคอมมิคมาก่อน และผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกมที่ผมกดพรีออร์เดอร์ไปมันคือเกมอะไร ผมไม่ได้ดูตัวอย่าง หรือรูปภาพใด ๆ ทั้งสิ้น เหตุผลเดียวที่ผมกดเกมนี้ก็เพราะมันมีชื่อ The Walking Dead แปะหน้าเท่านั้นเอง
และนั่นเป็นหนึ่งในการตัดสินใจชั่ววูบที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยทำมาในชีวิต
วันที่ผมเปิดเกม The Walking Dead ขึ้น ผมได้เห็นการเล่าเรื่องในแบบที่ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความรู้สึกหนักอึ้งที่เราต้องดูแลเด็กสาวหนึ่งคน การที่เราต้องเลือกสละหนึ่งในผู้รอดชีวิตเพื่อผลประโยชน์โดยรวมของกลุ่มในช่วงเวลาที่จำกัดและคับขันเป็นอย่ายิ่ง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราเห็นตลอดในตัวซีรีส์ แต่ในฐานะคนดูเราไม่ได้รับความกดดันแบบนั้นเท่าที่ควร มีเกมนี้นี่แหละที่เติมเต็มอารมณ์นี้ได้ดี เราได้เข้าใจตัวละครในเกมได้อย่างดีว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร โดยเฉพาะลี เพราะสิ่งที่เขาทำลงไป ทุกชีวิตที่เขาปลิด เลือดมันไม่ได้เปื้อนอยู่บนมือใครนอกจากคนเล่นเอง ลีไม่ได้เป็นคนทำ เราต่างหากที่เป็นคนทำ และในทุกการกระทำ มักจะมีประโยชน์ในตำนาน “ (ชื่อตัวละคร) will remember that” ขึ้นเสมอ เป็นการบอกว่าสิ่งที่เราทำไป ตัวละครที่เห็นเหตุการณ์จะไม่ลืม และอาจส่งผลให้กับเหตุการณ์ต่อไปหรือทัศนคติที่ตัวละครนั้นมีต่อเราได้ จริงอยู่ที่มันอาจจะไม่มีผลกระทบมากขนาดนั้น แต่ผมมองว่ามันเป็นภาพลวงตาให้คนเล่นรู้สึกถึงผลกระทบของสิ่งที่ตัวเองทำไปมากกว่า ถึงใครคนอื่นในเรื่องจะจำไม่ได้ แต่เราเองนี่แหละที่เป็นคนจำได้ติดตาและคาสมองมากที่สุด
แต่นั่นคือซีซันแรกของเกม THE WALKING DEAD
และมันเป็นซีซันที่ดีที่สุด และอาจเป็นเกมที่ดีที่สุดของ TELLTALE GAMES
หลังจากที่ The Walking Dead ออกวางขาย เกมก็ระเบิดตู้มแบบงง ๆ จากค่ายเกมเล็กที่แทบไม่มีใครแคร์กลายเป็นค่ายพัฒนาเกมที่เป็นที่ฮือฮาในช่วงข้ามเดือน ได้รับรางวัลในสาขาเดียวกับที่เกมระดับ AAA ทุนสร้างหลายสิบล้านมากมายนับไม่ถ้วน และได้ขึ้นลิสต์อันดับ 1 ของเกมที่ควรเล่นแห่งปี 2012 อยู่หลายเจ้า ต้องบอกตรง ๆ ว่าเป็นรางวัลที่เกมนี้สมควรได้รับมาก ใครที่ไม่เคยลองเล่น ผมแนะนำสุดใจเลยว่าให้ไปลองดู คุณอาจจะมองวีดีโอเกมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเลยก็ได้นะ
แต่นี่คือบาปของ Telltale Games ที่ตอนแรกมันจะเป็นตอนที่สนุกที่สุดเสมอ แล้วมักจะดรอปลงไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงตอนจบ
Next Episode of Telltale Games
แล้วต่อจากนั้นล่ะ? TELLTALE GAMES ไปทางไหนต่อ
หลังจากที่ผมเล่น The Walking Dead จบ ผมก็ประกาศตัวเป็นแฟนของ Telltale Games แบบเต็มตัว รวมถึงดึงเพื่อนที่ชอบเกมแนวนี้/ชอบ The Walking Dead มาลองเล่นด้วย และเราก็เป็นแฟนคลับของ Telltale ไปด้วยกัน เราซื้อเกม The Wolf Among Us (ดัดแปลงมาจากคอมมิค Fables ของค่าย Vertigo) มาเล่นด้วยกัน ทุกครั้งที่เราเล่นจบตอนใหม่ เราจะมานั่งคุยกัน วิเคราะห์ ไม่ก็เล่นซ้ำอีกรอบแล้วคุยกันอีก นั่งนับวันที่ตอนใหม่จะออก ฟีลมันเหมือนเรานั่งดูซีรีส์ที่ชอบมาก ถึงแม้พวกเราทั้งคู่จะไม่เคยอ่าน Fables มาก่อนเลยก็ตาม และทาง Telltale Games ก็ได้ทำผลงาน The Wolf Among Us ออกมาได้ดี ทำให้พวกเรารักค่ายนี้มากขึ้นไปอีก แต่ช่วงนั้นเองที่เราเริ่มรู้สึกถึงปัญหาที่กำลังคืบคลานเข้ามาเรื่อย ๆ
ในตอนที่ The Wolf Among Us ออกในช่วงเดือนตุลาคมปี 2013 ได้มีการปล่อยเกม The Walking Dead Season 2 ออกมาตอนธันวาคม ทำให้ The Wolf Among Us ตอนที่สองไปออกเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งไม่ตรงกับตารางการออกเกมของ Telltale ที่มักจะออกตอนใหม่ทุก ๆ สองเดือน เพราะว่าช่วงเวลาการออกตอนสองนั้นเป็นของ The Walking Dead Season 2 ไปแล้วนั่นเอง แต่นอกจากปัญหาตอนสองของ TWAU ก็ไม่มีปัญหาในการวางขายอีก ทุกตอนออกในช่วงเวลาประมาณสองเดือนตามปกติ แต่นี่กำลังจะกลายเป็นเรื่องปกติของการวางขายเกม และมันกำลังจะแย่ลงกว่าเดิม
Downfall of Telltale Games
ย้อนกลับไปช่วงที่เรื่องเสริมของ The Walking Dead ชื่อ 400 Days ออกในช่วงกรกฎาคมปี 2013 ตอนนั้นทางค่ายมีปัญหาเล็กน้อยเนื่องจากมือเขียนบทหลักของ The Walking Dead ได้ออกจากบริษัท รวมถึงผู้ช่วยเขียนบทบางคนก็ออกด้วยเช่นกัน นี่ทำให้ทีมเขียนบทของ Telltale เสียน้ำหนักไปมากสมควร และหลังจากที่เกม The Walking Dead Season 2 ได้ออกวางขายตอนแรกไม่นานในช่วงปลายปี 2013 ทางค่ายก็ได้ประกาศว่าได้ทำการซื้อลิขสิทธิ์ Borderlands ของ Gearbox และ Game of Thrones ของ HBO มาเพื่อทำเกมแล้วเช่นกัน แสดงว่าเราจะได้เห็น Telltale ทำเกมปีละสองเกมในปี 2014 อีกปีนึงแน่นอน
แต่ตอนนี้เราเริ่มเห็นแล้วว่า ทีมงานของค่ายเริ่มที่จะรับภาระการพัฒนาเกมเหล่านี้ไม่ไหวแล้ว เพราะเกม Tales from the Borderlands และ Game of Thrones ออกห่างกันแค่เดือนเดียวและจบห่างกันแค่เดือนเดียวเช่นกัน โดย Game of Thrones จบเดือนพฤศจิกายนปี 2015 ทว่า Game of Thrones นั้นมีจำนวนตอนถึง 6 ตอน โฟกัสจึงไปอยู่ที่ตัว Game of Thrones มากกว่า ดูได้จากการที่ตอนของ Game of Thrones ออกถี่กว่า ตามหลัก Game of Thrones ควรจะจบหลัง Tales สามเดือน และ Tales ก็โดนปัญหาเดียวกับ TWAU คือตอนที่หนึ่งและตอนที่สองออกห่างกัน 4 เดือนอีกแล้วด้วย การเขียนก็ไม่ดีเท่างานที่ผ่านมาทั้งสามเกม หลายคนเริ่มบ่นว่าคุณภาพของ Telltale เริ่มตกลงเรื่อย ๆ แต่ก็ยังดีที่กระแสตอบรับยังอยู่ในแง่ที่ดีอยู่ และในช่วงนั้นก็ได้มีการซื้อลิขสิทธิ์ Minecraft มาตอนปลายปี 2014 และซื้อ Batman ของ DC Comics กับ Guardians of the Galaxy ของ Marvel อีกด้วย
ปี 2015 – 2016 นี้ผมมองว่าเป็นจุดที่แฟน Telltale หลายคนเริ่มที่จะเอือมระอากับค่ายที่เน้นปริมาณเกมมากกว่าคุณภาพเต็มที โดยในปี 2016 Telltale ได้ออกเกมใหม่ถึง 3 เกมด้วยกัน แถมเริ่มมีคู่แข่งอย่าง Dontnod ผู้พัฒนา Life is Strange ที่ใช้เอนจิน Unreal Engine 3 ทำให้ตัวเกมดูดีกว่าและมีปัญหาในการรันน้อยกว่าแถมฝั่ง Telltale ยังใช้เอนจินที่ Telltale Tool แก้ใหม่กับเกม The Walking Dead: Michonne ซึ่งเอนจินนี้มีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพในการเล่น เฟรมเรตตก บั๊กมากมายพอสมควรที่ตอนนี้ก็ดูเหมือนจะยังแก้ไม่หมดดีเลย ในช่วงที่ผ่านมากระแส Let’ s Play และ Stream ก็มาแรง Telltale ก็มีการร่วมกระแสด้วยการเพิ่มระบบ Crowd Play ลงไปในเกม โดยระบบนี้ใส่มาตั้งแต่ในเกม Batman เป็นต้นไป โดยจะให้ผู้ชมสตรีมใน twitch โหวตตัวเลือกที่จะให้นักสตรีมเลือกระหว่างเล่นด้วย แต่ทว่าเกม Telltale เป็นแนวเกมที่ใช้เนื้อเรื่องค่อนข้างหนัก จุดนี้อาจจะส่งผลกับยอดขายโดยรวมด้วยก็เป็นได้
แต่เพราะ LET’ S PLAY กับ STREAM หรือเปล่าที่เป็นคนฆ่า TELLTALE GAMES?
Season Finale: The Death of Telltale Games
สำหรับพวกผมแล้ว จุดสิ้นสุดของ Telltale มันคือช่วงที่ Telltale Games ทำ Minecraft: Story Mode Season 2 เพราะสิ่งที่ผมอยากเล่นจาก Telltale คือเกมที่มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่หรือวัยรุ่น แต่ดูเหมือน Telltale จะเน้นตีตลาดนี้มากกว่า The Walking Dead: A New Frontier ผมก็รู้สึกว่าตัวละครใหม่น่าเบื่อ จืด เหตุผลเดียวที่ทำให้ผมเล่นต่อคือ Clementine แต่นั่นก็ไม่พอที่จะทำให้ผมทนเล่นจนจบได้ และด้วยการที่ตัวเกมมีจุดจบที่เยอะ ทำให้เรื่องโดนลดสเกลลง ความรู้สึกที่เหมือนว่าคนเล่นได้มีผลกับเนื้อเรื่องมันหายไปจนเกือบหมด ถึงแม้เป็นภาพลวงตาก็ไม่เหลือ เรื่องเดินเป็นเส้นตรง และการกระทำของผู้เล่นไม่มีน้ำหนักอีกต่อไป
หลังจากที่ A New Frontier ออก ผมก็เลิกซื้อเกมของ Telltale ในวันแรกที่วางขายอีก ผมมักจะรอจนกว่าจะจบทั้งซีซันเพื่อดูกระแสและราคาที่ลดลง ความมั่นใจในคุณภาพของ Telltale Games ที่ผมมีมันหายไปแล้วจนหมดสิ้น ถึงแม้ The Walking Dead Final Season จะออกผมก็ยังไม่แคร์ที่จะเล่น เพราะผมต้องย้อนไปเล่น A New Frontier อีก แต่ผมไม่อยากไปทนเล่นเกมนั้นอีก ถึงแม้จะพยายามดึงแฟนเก่า ๆ กลับมาเล่นกับการขาย The Walking Dead Final Season ประกาศ The Wolf Among Us Season 2 และ Game of Thrones Season 2 หรือกระทั่งลิขสิทธิ์ใหม่ Stranger Things ที่เป็นซีรีส์สุดฮิตจาก Netflix แต่มันก็สายไปเสียแล้ว แฟนคลับที่เหนียวแน่นตั้งแต่สมัยก่อน The Walking Dead หรือที่มาพร้อมกับ The Walking Dead แบบผมนั้นไม่ได้มีความสนใจต่อเกมที่ทางค่ายจะปล่อยอีกแล้ว ผมมองว่าการที่ Telltale ตายนั้นมันชัดเจนมาแต่ไกล ผู้เล่นก็เห็นมาตลอด มีแต่ทางค่ายเองที่ไม่เห็น และฝืนตัวเองจนสุดท้ายก็ตายคาที่แบบนี้ ทำเกมออกมาชนกันเอง ทำพร้อมกันหลายเกม ปัญหาทางเทคนิคที่เยอะ คู่แข่งที่มีคุณภาพดีกว่า และการเน้นขายแต่ชื่อลิขสิทธิ์ที่มีชื่อเสียงมากกว่าคุณภาพของเกมนั้น ๆ
ด้ามของดาบที่สังหาร Telltale Games นั้นมันไม่ได้มาจากใครที่ไหน แต่มันอยู่ในกำมือของพวกเขาเอง พวกเขาค่อย ๆ แทงดาบนั้นเข้าร่างกายมาหลายต่อหลายปี สร้างความเสียหายไปเรื่อย ๆ แต่พวกเขาไม่ได้ตายเพราะดาบนั้นทำร้ายส่วนสำคัญของร่างกาย แต่พวกเขาตายเพราะเสียเลือดจากบาดแผลที่มาจากดาบในมือพวกเขาเองต่างหาก
ถึงแม้ผมจะรู้ว่าจุดจบของ Telltale นั้นใกล้จะมาถึง และได้เห็นกับตาตัวเองในวันนี้ ผมก็รู้สึกขอบคุณพวกเขาที่ทำให้ผมได้เห็นเกมในมุมมองใหม่ เกมที่มากกว่าแค่ระบบเกม มากกว่ากราฟิก มากกว่าแค่เนื้อเรื่อง แต่มันคือประสบการณ์ที่น้อยค่ายจะเลียนแบบได้ สุดท้ายนี้ ผมก็อยากจะบอกกับ Telltale Games ด้วยประโยคสั้น ๆ ว่า
“PHANTAWIT SUKJAIDEE WILL REMEMBER YOU”
