อย่างที่เราทราบกันดีว่า Assassin’s Creed Odyssey นั้นจะมีตัวเลือกของบทสนทนาหรือ Dialog Wheel เป็นภาคแรกของซีรี่ส์ เหมือนกับแฟรนไชส์เกม RPG แบบเต็มตัวอย่าง The Witcher 3 หรือเกมของทางค่าย Bioware หลายๆเกมที่ทางทีมพัฒนา Ubisoft Quebec ผู้พัฒนาเกม Assassin’s Creed Odyssey ก็ยอมรับว่ามันคือแรงบันดาลใจให้ทางทีมงานเลือกนำเอาระบบนี้มาใส่ในเกม แต่ตัวเลือกของบทสนทนาเหล่านั้นจะส่งผลต่อตัวเกมมากขนาดไหน?
เนื้อเรื่องหลักโดยเฉพาะในส่วนของการเล่าเรื่องแบบ Interactive ล้วนๆ (ไม่รวมเวลาที่ใช้ในการเล่นระหว่างภารกิจ) ของ Assassin’s Creed Odyssey นั้นอาจจะใช้เวลาถึง 30 ชั่วโมงและมันก็อาจจะมีฉากจบที่หลากหลายแบบอีกด้วย จากการยืนยันของ Jonathan Dumont ผู้กำกับของเกม
โดยคุณ Jonathan ได้บอกว่าตัวเกมนั้นแม้จะมีการเล่าเรื่องที่ไม่มีจุดจบ (อาจจะด้วยคอนเทนท์ที่ตัวเกมจะมีการอัพเดทเพิ่มเติมให้ในทุกสัปดาห์) แต่อย่างไรเสียมันก็ยังมีฉากจบที่จะต้องเป็นบทสรุปของ ‘สงครามเพโลพอนนิเซียน‘ อย่างแน่นอน และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของทีมงานในการเลือกที่จะใส่ระบบ ‘ตัวเลือกของบทสนทนา’ เข้ามาเพื่อให้ผู้เล่นสามารถสร้างประวัติศาสตร์ของสงครามระหว่าง ‘กรีก’ และ ‘เอเธนส์’ ได้ในแบบฉบับของตัวเอง
ซึ่งคุณ Jonathan Dumont ได้อธิบายไว่ว่าตัวเกมนั้นจะแบ่งการเล่าเรื่องและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของผู้เล่นออกเป็นสามระยะ คือผลกระทบในระยะสั้น,ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งเราก็ขอยกตัวอย่างเกมการเล่นหนึ่งของ Assassin’s Creed Odyssey ที่ทางทีมงานเว็บไซต์ PC Gamer ได้ทำการทดลองเล่นมาเป็นตัวอย่างของการตัดสินใจของผู้เล่นที่จะส่งผลต่อเนื่องกับโลกของตัวเกมมาเล่าให้ฟังกัน
โดยในภารกิจหนึ่งที่ทางทีมงาน PC Gamer ได้ทดลองเล่นนั้น เป็นภารกิจที่ตัวเอกของเราจะต้องออกไปตามฆ่าหมีตัวหนึ่งตามคำขอของ NPC ที่ได้รับเควสมา ซึ่งฟังดูอาจจะคล้ายกับเกมการเล่นในภาค Origins ที่ก็มักจะมีภารกิจในรูปแบบนี้ แต่เมื่อตัวเอกของเราฆ่าหมีได้แล้วนั้น ก็พบว่ามันมีซากเรือใกล้ๆกันอยู่ และที่แห่งนั้นก็เต็มไปด้วยซากศพและเงื่อนงำที่ทำให้เรารู้ว่าแท้จริงแล้วเจ้าหมีตัวที่เราฆ่าไปนั้นได้ถูกลักลอบขนส่งเข้ามายังเมืองก่อนที่เรือจะล่มนั่นเอง
และนั่นก็ทำให้เราได้รู้ว่าตัวละครที่เป็นผู้มอบเควสนี้ให้กับเราก็เป็นหนึ่งในนักลักลอบขนของเถื่อน ซึ่งในตรงนี้เราสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะเก็บความลับเรื่องหมีเพื่อใช้ในการแบล็คเมล์เธอในภายหลัง หรือจะขอเงินค่าปิดปากเพิ่มเติมจากค่าจ้าง ซึ่งการตัดสินใจทั้งคู่นั้นก็จะส่งผลลัพธ์ออกมาแตกต่างกันชัดเจน โดยหากเราเลือกที่จะแบล็คเมล์เธอเธอจะชักดาบออกมาเพื่อสู้กับเราในขระที่ถ้าเรายอมรับเงินค่าปิดปากเราก็อาจจะจบเควสได้โดยไม่จำเป็นที่จะต้องต่อสู้และตัวละครนี้ก็จะมีบทบาทต่อไปอีกในอนาคต
และนั่นก็คือผลกระทบจากการตัดสินใจของผู้เล่นในระยะสั้นที่อาจจะส่งผลถึงผลกระทบในระยะกลาง ซึ่งผลกระทบระยะยาวนั้นก็อาจจะต้องใช้เวลากว่า 70 ชั่วโมงในการเล่นเราถึงจะได้รู้ โดยเดโมที่ทางทีมงานได้นำมาแสดงให้เราได้ชมกันไปในงาน E3 2018 นั้นคือตัวอย่างของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในระยะกลางนั่นเอง ที่ผู้เล่นจะรับรู้ถึงผลกระทบได้เมื่อเล่นเนื้อเรื่องไปจนจบเกาะหนึ่งเกาะแล้ว และผลกระทบในระยะกลางนั้นก็จะมีตัวเลือกอีกมากมายภายในเกมเช่นเดียวกับผลกระทบระยะสั้นที่จะมีจำนวนมหาศาล
โดยคุณ Jonathan ได้อธิบายเพื่มเติมอีกด้วยว่า “ในระยะสั้นนั้น เวลามีคนมาขอร้องให้คุณออกไปจัดการใครสักคน คุณก็สามารถเลือกได้ว่าจะจัดการกับเขาอย่างไร จะจัดการเขาโดยการฆ่าทิ้งหรือจะเป็นการเจรจา? นั่นก็เป็นตัวเลือกที่ผู้เล่นจะเลือกได้ ซึ่งเมื่อผู้เล่นย้อนกลับมายังตัวละครผู้ที่ร้องขอมันก็จะมีตัวเลือกอีกว่า เราจะตัดสินใจอย่างไรกับของรางวัลที่ได้รวมไปถึงความสัมพันธ์ของตัวละคร”
“ผมจะยกตัวอย่างอันนึงให้ฟัง เรามีเควสอย่างเช่นว่าเป็นเควสที่คุณจะต้องออกไปตามหาอาวุธ ซึ่งตัวละครบางตัวอาจจะถามคุณว่า “คุณพอจะช่วยตามหาดาบของฉันได้มั้ย?” จากนั้นคุณก็ออกไปหาดาบเล่มนั้นจนเจอและคุณก็กลับมาพร้อมกับตัวเลือกที่คุณอาจจะโกหกแล้วเก็บดาบนั้นเอาเองก็ได้ ตัวเลือกเหล่านี้จะส่งผลทันที และสิ่งเหล่านั้นก็จะหลอมรวมกันจนกลายเป็นผลกระทบที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งมันจะมีการตัดสินใจที่จะส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อตัวเกมแน่นอน ซึ่งผมก็ขอยังไม่สปอยล์ในตอนนี้ แต่มันจะเป็นการพลิกเรื่องราวไปในอีกทิศทางเลยทีเดียวแหละ”
Assassin’s Creed Origins นั้นได้นำเสนอโลกที่กว้างใหญ่และเควสมากมายที่ผู้เล่นหลายคนใช้เวลาไปกับมันในหลักร้อยชั่วโมง กับก้าวแรกของของ Ubisoft ในการนำเสนอตัวเกม Assassin’s Creed ในรูปแบบของเกม RPG และ Assassin’s Creed Odyssey ที่มาพร้อมกับรายละเอียดต่างๆที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอย่างมากนั้น ก็อาจจะทำให้เราต้องติดพันอยู่กับเกมไปเป็นเวลานานอย่างที่ทีมงาน Ubisoft ต้องการก็เป็นได้
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
- Assassin’s Creed Odyssey will have multiple endings
- Assassin’s Creed Odyssey hands-on: RPG-style choices bring the game’s story to life
- Assassin’s Creed Odyssey Is Inspired By Fallout and The Witcher 3
อ่านต่อเรื่องราวและติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ Assassin’s Creed Odyssey ได้ที่ Gamerism.co